(9 ธ.ค. 2025) – บริษัท Strategy ภายใต้การนำของ Michael Saylor ยังคงสร้างความฮือฮาให้กับโลกการเงินอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้เผยแพร่แผนภาพอินโฟกราฟิกสุดล้ำที่แสดงให้เห็นถึงโมเดลธุรกิจใหม่ภายใต้แนวคิด “Digital Credit Vehicle” ซึ่งเปรียบเสมือนโรงงานไฟฟ้าที่เปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลให้กลายเป็นเครดิตที่จับต้องได้ โดยมีหัวใจสำคัญคือคลัง Bitcoin มูลค่ามหาศาลกว่า 61,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่ทำหน้าที่เป็น “เตาปฏิกรณ์” คอยขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของบริษัท
แนวคิดหลักที่ Strategy นำเสนอคือการมอง Bitcoin ในฐานะ “Digital Energy” หรือพลังงานดิจิทัลที่กักเก็บมูลค่าและความผันผวนเอาไว้ ซึ่งบริษัทได้พัฒนากระบวนการแปลงพลังงานเหล่านี้ให้กลายเป็น “Digital Credit” หรือผลิตภัณฑ์ทางการเงินรูปแบบใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูง ผ่านตราสารต่าง ๆ เช่น STRF และ STRK ซึ่งถูกออกแบบมาให้สร้างผลตอบแทนในรูปแบบเงินปันผล โดยมีการคาดการณ์มูลค่าปันผลสูงถึง 1.4 พันล้านดอลลาร์
โมเดลนี้ถือเป็นการเปิดมิติใหม่ของการลงทุน ที่เปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงความเคลื่อนไหวของราคา Bitcoin และความผันผวนของตลาดได้ โดยไม่ต้องถือครอง Bitcoin โดยตรง แถมยังมีต้นทุนการดำเนินงานที่ต่ำมาก เพียง 0.2-5.6 basis points บนปริมาณการซื้อขายมหาศาลระดับ 4 พันล้านถึง 1 แสนล้านดอลลาร์ต่อวัน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการบริหารจัดการสภาพคล่องของบริษัท
ท่ามกลางสภาวะตลาดที่ราคา Bitcoin เพิ่งปรับตัวลดลงเมื่อเร็วๆ นี้ โครงสร้างทางการเงินดังกล่าวได้พิสูจน์ให้เห็นถึง “ความยืดหยุ่น” (Resilience) ของ Strategy ที่เหนือกว่าบริษัททั่วไป โดยบริษัทได้ประกาศจัดตั้งเงินสำรองสกุลดอลลาร์ (USD Reserve) ก้อนใหม่มูลค่า 1.44 พันล้านดอลลาร์ เพื่อใช้เป็นหลักประกันในการจ่ายเงินปันผลสำหรับปีงบประมาณ 2025 ไว้ล่วงหน้าถึง 21 เดือน ซึ่งช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนว่ากระแสเงินสดจะยังคงไหลเวียนได้อย่างต่อเนื่องไม่ว่าสภาพตลาดจะเป็นอย่างไร
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่กลยุทธ์ทางธุรกิจ แต่เป็นการตอกย้ำวิสัยทัศน์ของ Michael Saylor ที่ต้องการผลักดันให้ Bitcoin ก้าวขึ้นมาเป็นสินทรัพย์พื้นฐานทางการเงินของโลก อย่างแท้จริง โดยการเปลี่ยน Bitcoin จากสินทรัพย์ที่ถูกมองว่าเก็งกำไร ให้กลายเป็นฐานทุนที่มั่นคงและสามารถ “ผลิตดอกออกผล” ได้จริงในระบบการเงินยุคใหม่
ที่มา: @Strategy

