นักวิเคราะห์คริปโตชื่อดัง Rekt Fencer ออกมาเตือนตลาดอีกครั้ง หลังชี้ให้เห็นความเชื่อมโยงที่น่ากังวลระหว่าง การขึ้นดอกเบี้ยของญี่ปุ่น (Japan rate hike) กับการปรับฐานรุนแรงของราคา Bitcoin ในอดีต โดยเขาระบุว่า ทุกครั้งที่ญี่ปุ่นขึ้นดอกเบี้ย ราคา BTC มักร่วงลงราว 20% และรอบถัดไปของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจเกิดขึ้นภายในสัปดาห์หน้า ซึ่งอาจสร้างแรงกดดันใหม่ให้กับตลาดคริปโตในช่วงปลายปีนี้
จากข้อมูลในกราฟย้อนหลังในอดีต จะเห็นว่าในช่วงที่ญี่ปุ่นเริ่มส่งสัญญาณคุมเข้มนโยบายการเงิน Bitcoin เคยเผชิญการปรับฐานหนักหลายครั้ง ตั้งแต่ระดับ -20%, -21% ไปจนถึง -25% ในแต่ละรอบ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงทิศทางดอกเบี้ยของญี่ปุ่น แม้จะดูเป็นเรื่องเฉพาะประเทศ แต่กลับส่งผลกระทบต่อสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก โดยเฉพาะตลาดที่อาศัยสภาพคล่องสูงอย่างคริปโต
Rekt Fencer เตือนว่า หาก pattern นี้เกิดการซ้ำรอยราคา Bitcoin อาจมีโอกาสหลุดทะลุ $70,000 ภายในวันที่ 19 ธันวาคม แม้เขาจะไม่ได้ยืนยันว่าเหตุการณ์จะต้องเกิดขึ้นแน่นอน แต่การชี้ให้เห็นความสอดคล้องของข้อมูลเชิงสถิติทำให้นักลงทุนจำนวนมากเริ่มกลับมาประเมินความเสี่ยงจากปัจจัยมหภาคอีกครั้ง
นักวิเคราะห์มองว่า ประเด็นสำคัญอยู่ที่บทบาทของญี่ปุ่นในฐานะแหล่งเงินทุนราคาถูกของโลกมานานหลายทศวรรษ การขึ้นดอกเบี้ยแม้เพียงเล็กน้อยอาจกระทบกลยุทธ์ carry trade และทำให้เงินทุนไหลกลับเข้าสู่สกุลเงินเยน ส่งผลให้สินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก รวมถึง Bitcoin ถูกขายเพื่อลดความเสี่ยงในพอร์ต
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญหลายรายก็เตือนว่าการอ้างอิงข้อมูลในอดีตเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ เนื่องจากโครงสร้างตลาด Bitcoin ในปัจจุบันแตกต่างจากรอบก่อน ๆ อย่างมาก ทั้งการเข้ามาของสถาบัน, ETF และตลาดสินเชื่อที่ใช้ BTC เป็นหลักประกัน ดังนั้น แม้คำเตือนของ Rekt Fencer จะช่วยย้ำให้ตลาดไม่ประมาท แต่ทิศทางสุดท้ายของราคา Bitcoin ยังขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยร่วมกัน ไม่ใช่เพียงนโยบายดอกเบี้ยของญี่ปุ่นเพียงอย่างเดียว
