<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

จับตา 3 ตัวเลขเศรษฐกิจ ชี้ชะตา Bitcoin ลุ้นระทึกฝ่าด่าน $90,000 หรือร่วงยับ 15-19 ธันวาคมนี้ !

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีกำลังเข้าสู่ช่วงเวลาชี้ชะตาที่นักลงทุนต้องจับตาอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสัปดาห์นี้ (15-19 ธันวาคม) ที่รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังจะประกาศ 3 ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ ขณะที่ราคายังทรงตัวอยู่ที่ $90,000 อีกทั้งยังมีความเสี่ยงจาก “ธนาคารกลางญี่ปุ่น” ที่จ่อขึ้นดอกเบี้ยแรง ผสมโรงเข้ามากดดันตลาด

นักวิเคราะห์มองว่า ทิศทางราคาในระยะสั้นจะขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคของสหรัฐฯ ที่กำลังจะเปิดเผย ซึ่งจะมีผลโดยตรงต่อการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) รอบถัดไป

นอกจากปัจจัยจากฝั่งสหรัฐฯ แล้ว ตลาดยังต้องเผชิญกับความผันผวนจากฝั่งเอเชีย เมื่อมีการประเมินโอกาสสูงถึง 98% ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็น 0.75% ในวันที่ 19 ธันวาคมนี้ ซึ่งสถิติในอดีตชี้ว่า การเคลื่อนไหวลักษณะนี้ของ BOJ มักกดดันให้ตลาดร่วงลงแรงถึง 20-30%

1. ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Nonfarm Payrolls: NFP) 

ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ตัวแรกที่ต้องจับตาในสัปดาห์นี้คือ ข้อมูลที่จะประกาศในวันอังคารที่ 16 ธันวาคม เวลา 20:30 น. ซึ่งถือเป็นข้อมูลชุดแรกที่ตลาดให้ความสำคัญสูงสุด เพื่อใช้ประเมินทิศทางนโยบายของเฟดไปจนถึงปี 2026

ตลาดมองว่าตัวเลขการจ้างงานจะชะลอตัวลงอย่างรุนแรง เหลือเพิ่มขึ้นเพียง 50,000 ตำแหน่ง จากเดือนก่อนที่มี 119,000 ตำแหน่ง และอัตราว่างงานอาจขยับขึ้นเป็น 4.5% สอดคล้องกับข้อมูลภาคเอกชน (ADP) ที่หดตัว 

หากตัวเลขออกมา “สูงกว่าที่คาด” จะปลุกกระแสความกังวลว่า เฟดอาจใช้นโยบายแบบเข้มงวด (Hawkish) ซึ่งอาจกดดันให้ Bitcoin ร่วงลงไปทดสอบแนวรับสำคัญที่ $85,000 

ในทางกลับกัน หากตัวเลข “ต่ำกว่าคาด” จะเป็นการส่งสัญญาณว่า เศรษฐกิจเริ่มชะลอตัว ทำให้เฟดมีท่าทีผ่อนคลาย (Dovish) ซึ่งจะเป็นแรงหนุนให้ราคา Bitcoin ดีดตัวกลับไปที่ $95,000 หรือสูงกว่า

2. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก (Initial Jobless Claims) 

รายงานผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ที่จะประกาศในวันพฤหัสบดีที่ 18 ธันวาคม เวลา 20:30 น. เป็นอีกหนึ่งตัวชี้วัดสำคัญที่สะท้อนให้เห็น “ความตึงเครียดของตลาดแรงงาน” แบบ Real-time

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจะอยู่ที่ 223,000 ราย ลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้า หากตัวเลขออกมา “สูงกว่าคาด” จะสะท้อนว่าคนว่างงานเยอะขึ้น ซึ่งจะช่วยหนุนให้เฟดตัดสินใจลดดอกเบี้ยเพื่อพยุงเศรษฐกิจ ส่งผลบวกต่อราคา Bitcoin 

แต่หากตัวเลขออกมา “ต่ำกว่าคาด” แสดงว่า ตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่ง ซึ่งอาจทำให้นักลงทุนผิดหวังที่เฟดอาจไม่รีบลดดอกเบี้ย และเทขายสินทรัพย์เสี่ยงจนราคา Bitcoin ร่วงลงสู่โซน $88,000

3. ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) 

ตัวเลขสุดท้ายที่เป็นไฮไลท์สำคัญที่สุดของสัปดาห์ ซึ่งจะประกาศในวันพฤหัสบดีที่ 18 ธันวาคม เวลา 20:30 น. (พร้อมกับตัวเลขสวัสดิการว่างงาน) หลังจากถูกเลื่อนประกาศมาเนื่องจากเหตุการณ์ชัตดาวน์ ตัวเลขนี้คือมาตรวัด “เงินเฟ้อ” หลักที่เฟดใช้ในการพิจารณา

ที่มา: Market Watch

นักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนี Headline CPI จะขยับขึ้นเล็กน้อยเป็น 3.1% (YoY) ส่วนดัชนีพื้นฐาน (Core CPI) จะทรงตัวที่ 3.0% หากเงินเฟ้อออกมา “ต่ำกว่า 2.8%” ตลาดจะคลายกังวลและเข้าสู่โหมดกล้าเสี่ยง (Risk-on) ซึ่งอาจดันให้ราคา Bitcoin พุ่งสู่ $95,000 ได้ทันที 

ในทางตรงกันข้าม หากเงินเฟ้อพุ่ง “เกิน 3.2%” จะสร้างความกังวลเรื่องดอกเบี้ยขาขึ้นอีกครั้ง และอาจเป็นปัจจัยลบที่ฉุดราคาให้ดิ่งลงลึกถึงระดับ $85,000

ในขณะที่รายงาน Bitcoin มีการซื้อขายทรงตัวอยู่ที่ระดับ $89,882 ลดลง 0.17% ช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ตามข้อมูลจาก CoinMarketCap

ที่มา:beincrypto