(17 ธ.ค. 2025) – วงการบล็อกเชนและการเงินดั้งเดิม (TradFi) ได้รับข่าวดีครั้งสำคัญ เมื่อ Visa ยักษ์ใหญ่ด้านการชำระเงินระดับโลก ประกาศความร่วมมือล่าสุดในการนำเทคโนโลยี Stablecoin มาใช้จริงในระบบธนาคารสหรัฐฯ
บัญชี X อย่างเป็นทางการของ Solana (@solana) ได้เผยแพร่คำกล่าวของ Cuy Sheffield หัวหน้าฝ่าย Crypto ของ Visa ที่ระบุว่า: “ขณะนี้มีธนาคาร 2 แห่งในสหรัฐฯ ที่เริ่มทำการชำระดุลธุรกรรม (Settle transactions) ด้วย USDC บน Solana แล้ว เรารู้สึกตื่นเต้นอย่างมากที่จะสร้างโมเมนตัมที่เรามีร่วมกับ Stablecoins ให้เติบโตยิ่งขึ้น”
แม้ในทวีตจะไม่ได้ระบุชื่อธนาคาร แต่ข้อมูลยืนยันว่าธนาคารทั้งสองแห่งคือ Lead Bank และ Cross River Bank การเคลื่อนไหวครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญในฐานะการขยายโครงการ Stablecoin ของ Visa เข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ เป็นครั้งแรก หลังจากที่ได้มีการทดลองใช้งานในภูมิภาคแอฟริกา, ละตินอเมริกา และเอเชีย มาก่อนหน้านี้
การตัดสินใจเลือกใช้บล็อกเชน Solana ในการบูรณาการครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อใช้ประโยชน์จากประสิทธิภาพของเครือข่ายที่มีความเร็วสูงและต้นทุนการทำธุรกรรมที่ต่ำ ซึ่งช่วยให้การชำระดุลระหว่างธนาคารเกิดขึ้นได้แบบเกือบจะทันที
โครงการนี้เป็นการต่อยอดความสำเร็จจากการทดสอบ Stablecoin บน Ethereum ของ Visa ในอดีต และแสดงให้เห็นถึงการเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยข้อมูล ณ เดือนพฤศจิกายน 2025 ชี้ว่าปริมาณธุรกรรมในโครงการ Stablecoin ของ Visa มีอัตราหมุนเวียนต่อปี สูงแตะระดับ 3.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แล้ว
การที่ธนาคารในสหรัฐฯ หันมาใช้โครงสร้างพื้นฐานบล็อกเชนสาธารณะอย่าง Solana สำหรับการทำธุรกรรมหลังบ้านที่สำคัญ ถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ที่ชัดเจนถึงการยอมรับเทคโนโลยีบล็อกเชนในภาคสถาบันการเงินที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยลดอุปสรรคและต้นทุนในการชำระเงินข้ามพรมแดน แต่ยังช่วยเสริมสร้างบทบาทของ Solana ในโลกการเงินยุคใหม่ โดย Visa ยังมีแผนที่จะขยายบริการนี้ไปยังผู้ให้บริการรับชำระเงิน เพิ่มเติมในอนาคต
ที่มา: @solana