(19 ธ.ค. 2025) – สถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์โลกทวีความร้อนแรงถึงขีดสุด เมื่ออดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกมาส่งสัญญาณที่ชัดเจนและน่ากังวลว่าเขา ยังคงเปิดโอกาสความเป็นไปได้ในการทำสงครามกับเวเนซุเอลาเอาไว้ในการพิจารณา
ท่าทีที่แข็งกร้าวขั้นสูงสุดนี้มีขึ้นต่อเนื่องหลังจากที่ทรัมป์กล่าวเมื่อวันที่ 18 ธันวาคมว่าเขา ไม่ปฏิเสธ การใช้ปฏิบัติการทางทหาร ซึ่งเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากที่สหรัฐฯ ได้เริ่มมาตรการปิดกั้นเรือบรรทุกน้ำมันที่ถูกคว่ำบาตรของเวเนซุเอลา ถือเป็นการยกระดับแรงกดดันทางเศรษฐกิจและการทหารครั้งสำคัญที่สุดในรอบหลายปี
ความขัดแย้งที่กำลังจะระเบิดนี้มีรากฐานมาจากปัญหาเรื้อรังหลายประการ ทั้งการปกครองที่เป็นข้อพิพาทของประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร ข้อกล่าวหาเรื่องความเชื่อมโยงกับขบวนการค้ายาเสพติด และผลประโยชน์ในแหล่งน้ำมันสำรองที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกในเวเนซุเอลา น่าสนใจว่าแม้ก่อนหน้านี้เพียง 2 วัน สภาคองเกรสสหรัฐฯ จะเพิ่งมีมติปฏิเสธการให้อำนาจทำสงคราม เนื่องจากความกังวลว่าจะนำไปสู่ความขัดแย้งยืดเยื้อเพื่อเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง แต่ท่าทีล่าสุดของทรัมป์แสดงให้เห็นว่าฝ่ายบริหารพร้อมที่จะเดินหน้ากดดันขั้นเด็ดขาด
สำหรับมุมมองผลกระทบต่อโลกคริปโทเคอร์เรนซี แหล่งข่าวและบทวิเคราะห์จาก Atlantic Council ชี้ว่าการที่สหรัฐฯ เพิ่มแรงกดดันต่อเวเนซุเอลาอาจส่งผลกระทบในสองทิศทางที่สวนทางกัน ด้านหนึ่งคือสหรัฐฯ อาจพยายามสกัดกั้นช่องทางการไหลเข้าของเงินตราต่างประเทศสู่เวเนซุเอลาที่ผ่านทางคริปโทเคอร์เรนซีให้เข้มงวดยิ่งขึ้น
แต่อีกด้านหนึ่ง วิกฤตการณ์และการคว่ำบาตรที่รุนแรงขึ้น อาจกลับกลายเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาให้ประชาชนและภาคธุรกิจภายในเวเนซุเอลา หันมายอมรับและใช้งาน Bitcoin หรือ Stablecoins มากขึ้นอย่างรวดเร็ว เพื่อใช้เป็นทางรอดในการหลบเลี่ยงการคว่ำบาตรและรักษามูลค่าทรัพย์สินท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจและสงครามที่อาจเกิดขึ้น
ที่มา: @cryptorover