ในอีกไม่กี่วันข้างหน้าเทศกาลวันคริสต์มาสก็กำลังจะเริ่มขึ้นอีกครั้ง ซึ่งตามปกติแล้วช่วงเวลาใกล้สิ้นปีนี้มักจะเกิดสิ่งที่เรียกว่า “Santa Rally” ขึ้น หรือก็คือซานต้าแจกของขวัญให้กับนักลงทุนดันราคาสินทรัพย์ขึ้นในช่วงโค้งสุดท้ายของปี
สัปดาห์นี้ Altcoin 4 โปรเจกต์กำลังจะพบกับเรื่องใหญ่หรือเหตุการณ์สำคัญก่อนหน้าวันคริสต์มาส ซึ่งจะประกอบไปด้วยแต่ละโปรเจกต์ดังนี้
Uniswap
ในวันที่ 25 ธันวาคม (คริสต์มาส) การโหวตข้อเสนอ UNIfication บน Uniswap จะครบกำหนดระยะเวลา และถือเป็นการปิดฉากข้อถกเถียงเรื่องค่าธรรมเนียมบนโปรโตคอลมาอย่างนาวนาน ซึ่งทาง Hayden Adams ผู้ก่อตั้งยืนยันแล้วว่าการโหวตครั้งนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนดำเนินการ
ข้อเสนอดังกล่าวถูกยื่นโดย Uniswap Labs และ Uniswap Foundation ซึ่งจะเป็นการเปิดให้ใช้ค่าธรรมเนียมโปรโตคอลทั่วเครือข่าย และยังมีการเผาเหรียญ 100 ล้าน UNI ออกจากคลังสำรอง
สาระสำคัญของการโหวตในครั้งนี้ มีจุดประสงค์เพื่อสนับสนุนในประเด็นต่างๆ ดังนี้:
- เปิดใช้งาน Uniswap protocol fees และใช้มันในการเบิร์น UNI
- ส่งค่าธรรมเนียมจาก Sequencer ของ Unichain เข้าสู่กลไกการเผาแบบเดียวกัน
- สร้างระบบการประมูลเพื่อรับส่วนลดค่าธรรมเนียมโปรโตคอล “PFDA”
- พัฒนา Aggregator Hooks สำหรับ Uniswap v4
- เผา 100 ล้าน UNI ออกจากคลังสำรอง
- ปรับจุดมุ่งหมายของ Uniswap Labs ให้กลับมาเน้นที่การพัฒนาโปรโตคอลเพียงอย่างเดียว
- ย้ายสภาพคล่องของ Unisocks ที่กำกับดูแลโดยชุมชน ไปยัง v4 บนเครือข่าย Unichain และทำการเผาสิทธิตำแหน่งสภาพคล่องนั้นทิ้ง
หากข้อเสนอดังกล่าวได้รับการอนุมัติ เหรียญ UNI ทั้งหมดจะถูกล็อกไว้ 2 วันก่อนที่จะเริ่มลงมือดำเนินการเผาเหรียญ
Hyperliquid
Hyperliquid กำลังจะมีเส้นตายโหวตเช่นกันในวันที่ 24 ธันวาคม ซึ่งจะเป็นการตัดสินใจในการเผาโทเคน HYPE เป็นมูลค่ากว่า $1 พันล้านให้หายไปตลอดกาล หรือก็คือการนำอุปทานกว่า 10% ออกไปจากระบบซึ่งจะส่งผลกระทบต่อราคาและโครงสร้างเป็นอย่างมาก
รายงานระบุว่า Hyper Foundation กำลังยื่นข้อเสนอโหวตเพื่ออนุมัติการ ‘เผาเหรียญ’ ในส่วนของ Assistance Fund คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 998 ล้านดอลลาร์ โดยเหรียญเหล่านี้ถูกส่งไปยังที่อยู่ Address ที่ไม่มี Private Key ซึ่งหมายความว่าสินทรัพย์ดังกล่าวจะถูกล็อกไว้อย่างถาวรและไม่สามารถนำออกมาใช้งานได้อีก นอกเสียจากจะมีการทำ Hard Fork เครือข่ายเท่านั้น
ชุมชนเลยตัดสินใจว่าจะให้ทำการเผาและไม่ต้องมีการเข้าถึงเหรียญดังกล่าวนั้นอีก
Aster
ในวันที่ 22 ธันวาคมนี้ Aster โปรเจกต์น้องใหม่ที่กำลังถูกจับตามอง เตรียมปรับลดอัตราการปล่อยเหรียญ (Token Emissions) ลง พร้อมเปิดตัวโปรแกรมรางวัลใหม่ “Crystal Weekly Drops” มูลค่ารวมกว่า 12 ล้านดอลลาร์ เพื่อสานต่อความสำเร็จจากแคมเปญ Double Harvest
ทางทีมงานระบุว่า เฟสแรกจะเริ่มต้นขึ้นระหว่างวันที่ 22-28 ธันวาคม โดยจะมีการกระจายรางวัลมูลค่า 2 ล้านดอลลาร์ในรูปแบบเหรียญ USDF ผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ ทั้งนี้ การปรับลดอัตราการปล่อยเหรียญถือเป็นสัญญาณสำคัญในการเปลี่ยนผ่านสู่การควบคุม Supply เหรียญที่เข้มงวดมากขึ้น เพื่อสร้างสมดุลระหว่างการมอบสิทธิประโยชน์แก่ผู้ใช้งานและความยั่งยืนของโปรโตคอลในระยะยาว
Huma Finance
Huma Finance เตรียมสร้างแรงส่งครั้งสำคัญก่อนเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาว โดยในวันที่ 24 ธันวาคมนี้ จะเริ่มแจกจ่ายตราอรรถประโยชน์ ‘Huma Vanguard’ ให้กับเหล่านักลงทุนที่ Stake เหรียญตามเกณฑ์ ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์เด็ดในการดึงดูดสภาพคล่องและสร้างความเชื่อมั่นในระยะยาว นอกจากนี้ ทางโปรเจกต์ยังใจดีเปิดช่วง Grace Period จนถึงวันที่ 21 ธันวาคม เพื่อให้ผู้ที่พลาดโอกาสในรอบแรกสามารถกลับมารักษาสิทธิ์และเตรียมความพร้อมสำหรับ Airdrop Season 2 ได้ทันเวลา
การเคลื่อนไหวในครั้งนี้ส่งผลบวกต่อราคา HUMA ในเชิงโครงสร้างอย่างชัดเจน เนื่องจากการบีบให้ผู้ใช้ต้องล็อกเหรียญเพื่อแลกกับสิทธิประโยชน์ระดับ Vanguard และสิทธิ์ใน Airdrop รอบถัดไป จะช่วยลดแรงเทขายในตลาดลงอย่างมหาศาล ขณะเดียวกันความต้องการครอบครองตราสัญลักษณ์เพื่อรับสิทธิพิเศษเหนือระดับ ก็จะเป็นตัวกระตุ้นแรงซื้อใหม่ๆ ให้หลั่งไหลเข้ามา เมื่อปัจจัยด้านการคุม Supply เหรียญ มาบรรจบกับความต้องการที่เพิ่มขึ้น จึงทำให้ HUMA มีโอกาสเกิดแรงดีดตัว และกลายเป็นดาวเด่นที่น่าจับตาที่สุดในช่วงคริสต์มาสนี้
สุดท้ายนี้ แม้สัญญาณทางเทคนิคและข่าวสารจากโปรโตคอลอย่าง UNI, HYPE, ASTER และ HUMA จะดูร้อนแรงรับช่วงเทศกาลวันคริสมาส แต่ต้องไม่ลืมว่าตลาดคริปโตในช่วงวันหยุดยาวมักมาพร้อมกับสภาวะ “สภาพคล่องต่ำ” ซึ่งอาจทำให้ราคาสวิงได้รุนแรงมากกว่าปกติ
คำเตือน : สำหรับนักลงทุนที่ต้องการคว้าโอกาสนี้ ควรวางแผนการเทรดให้รัดกุม แบ่งไม้เข้าซื้อ และไม่ลืมที่จะตั้ง Stop Loss เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เพราะในโลกคริปโต “ของขวัญคริสต์มาส” อาจมาในรูปแบบของกำไรก้อนโต หรือบทเรียนราคาแพงก็ได้
ที่มา : Beincrypto