<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

เวเนซุเอลาใช้ USDT จ่ายค่าน้ำมัน 80% เลี่ยงคว่ำบาตร แต่เจอปัญหาเปลี่ยนเป็นเงินสดยาก

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

(22 ธ.ค. 2025) – ท่ามกลางมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจที่เข้มงวดและการยึดเรือบรรทุกน้ำมันที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องจากสหรัฐฯ ทำให้เวเนซุเอลาต้องดิ้นรนหาทางออกในการทำธุรกรรมระหว่างประเทศ ล่าสุดมีรายงานจากนักเศรษฐศาสตร์ท้องถิ่นว่า ประเทศได้หันไปพึ่งพาคริปโทเคอร์เรนซีอย่างหนักในการขายน้ำมันดิบซึ่งเป็นรายได้หลักของประเทศ

Asdrubal Oliveros นักเศรษฐศาสตร์ ได้เปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจว่า ปัจจุบัน รายได้จากการขายน้ำมันดิบของเวเนซุเอลาเกือบ 80% ถูกชำระด้วย “Stablecoin” โดยเฉพาะอย่างยิ่ง USDT ( Tether) ซึ่งเป็นคริปโทเคอร์เรนซีที่มีมูลค่าอ้างอิงกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เขาเน้นย้ำว่า คริปโทเคอร์เรนซีได้กลายมาเป็น “ส่วนสำคัญ” ของนโยบายน้ำมันของเวเนซุเอลาไปแล้ว เพื่อเอาชนะข้อจำกัดในการทำธุรกรรมผ่านระบบการเงินแบบดั้งเดิม

อย่างไรก็ตาม แม้การใช้ USDT จะช่วยให้เวเนซุเอลาสามารถขายน้ำมันต่อไปได้ แต่ Oliveros ก็ชี้ให้เห็นถึงปัญหาใหม่ที่ตามมา นั่นคือ รัฐบาลเวเนซุเอลากำลังเผชิญกับความยากลำบากในการเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลเหล่านี้ให้เป็นเงินสด (Liquidation) และการแจกจ่ายเงินทุน เนื่องจากข้อจำกัดและการควบคุมต่างๆ ที่ยังคงมีอยู่ สถานการณ์นี้กำลังสร้าง “คอขวด” ในตลาดอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งส่งผลกดดันต่ออุปสงค์และผลักดันให้ราคาสูงขึ้น ทำให้จำเป็นต้องมีความระมัดระวังอย่างมากในการบริหารจัดการ

การที่อุตสาหกรรมน้ำมันขนาดใหญ่ของเวเนซุเอลา ซึ่งมีรายได้มากกว่า 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อปี หันมาใช้ Stablecoin ในการชำระเงินเป็นส่วนใหญ่ ถือเป็นข้อพิสูจน์ถึงความน่าเชื่อถือและสภาพคล่องที่เพิ่มขึ้นของสินทรัพย์ดิจิทัลเหล่านี้ในตลาดต่างประเทศ และเน้นย้ำถึงบทบาทของ Stablecoin ในฐานะทางเลือกสำหรับการชำระบัญชีในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ เมื่อช่องทางการชำระเงินแบบดั้งเดิมไม่สามารถใช้งานได้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้น หลังจากรัฐบาลทรัมป์ดำเนินมาตรการ “ปิดล้อม” ฝ่ายเดียวต่อการส่งออกน้ำมันของเวเนซุเอลา ซึ่งรัฐบาลเวเนซุเอลาประณามว่าเป็นการกระทำเยี่ยง “โจรสลัด”

ที่มา: @news.bitcoin