บราซิลเดินหน้าผสานโลกการเงินเข้ากับศิลปะอย่างจริงจัง หลังโปรเจกต์ Experimental Orchresta ได้นำข้อมูลราคา Bitcoin มาแปลงเป็นเสียงดนตรี และได้รับไฟเขียวอย่างเป็นทางการให้ระดมทุนจากภาคเอกชนภายใต้กฎหมายส่งเสริมวัฒนธรรมของประเทศ พร้อมแผนจัดการแสดงในกรุงบราซิเลีย เมืองหลวงของบราซิล
ข้อมูลจากรัฐบาลบราซิลระบุว่า โครงการดังกล่าวได้รับอนุญาตให้ระดมทุนได้สูงสุด 197,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นประมาณ 6.11 ล้านบาท โดยผู้สนับสนุนสามารถนำเงินบริจาคไปใช้ลดหย่อนภาษีได้ตามกฎหมาย Rouanet Law ซึ่งเป็นกฎหมายหลักในการผลักดันงานศิลปะและวัฒนธรรมของประเทศ

แนวคิดหลักของโปรเจกต์นี้คือ การนำข้อมูลทางการเงิน โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวของราคา Bitcoin (BTC) มาประมวลผลผ่านอัลกอริทึม แล้วแปลงออกมาเป็นโน้ตดนตรีแบบเรียลไทม์ระหว่างการแสดงสด ข้อมูลเหล่านี้ จะทำหน้าที่กำหนดทั้งท่วงทำนอง จังหวะ และการประสานเสียงของวงออร์เคสตรา ทำให้ผู้ชม “ได้ยินเสียงของตลาด” และรับรู้ความผันผวนของ Bitcoin ผ่านดนตรี แทนที่จะเป็นกราฟบนหน้าจอ
เอกสารของโปรเจกต์ระบุชัดเจนว่า การแสดงจะผสมผสานเครื่องดนตรีออร์เคสตราแบบดั้งเดิมเข้ากับการประพันธ์เพลงที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล โดยอาศัยองค์ความรู้จากหลายสาขา ทั้งศิลปะ คณิตศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ และฟิสิกส์ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการยืนยันว่าจะมีการใช้บล็อกเชนหรือโครงสร้างพื้นฐานแบบ on-chain ในกระบวนการแสดงหรือไม่
การอนุมัติครั้งนี้ หมายความว่า โครงการได้ผ่านการตรวจสอบด้านเทคนิคครบถ้วน และถูกจัดอยู่ในหมวด “ดนตรีบรรเลง” ซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญต่อการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษี โดยการระดมทุนทั้งหมดจะต้องเสร็จสิ้นภายในวันที่ 31 ธันวาคมนี้
แนวคิดการนำข้อมูลจากโลกคริปโตมาสร้างสรรค์งานศิลปะไม่ใช่เรื่องใหม่ซะทีเดียว ก่อนหน้านี้ในปี 2020 ศิลปินดิจิทัลในสหรัฐฯ อย่าง Matt Kane เคยเปิดตัวผลงาน “Right Place & Right Time” ที่ใช้ข้อมูลราคา Bitcoin แบบเรียลไทม์มาขับเคลื่อนงานศิลปะดิจิทัลบนแพลตฟอร์ม NFT อย่าง Async Art โดยองค์ประกอบของภาพจะเปลี่ยนแปลงไปตามความผันผวนของตลาด

ขณะเดียวกัน Refik Anadol ศิลปินชื่อดังอีกคน ก็เป็นที่รู้จักจากการใช้ AI อัลกอริทึม และข้อมูลขนาดใหญ่ มาสร้างงานศิลปะแบบ Immersive Art รวมถึงโปรเจกต์ NFT อย่าง “Winds of Yawanawá” ที่เปิดตัวในบราซิลเมื่อปี 2023 ซึ่งผสานข้อมูลสภาพแวดล้อมจริงเข้ากับศิลปะดิจิทัล

ที่มา:cointelegraph

