 เตรียมจบปี 2025 ด้วยตัวแดงติดลบกว่า 40%){kind=link}
World Liberty Financial (WLFI) โปรเจกต์คริปโตภายใต้การบริหารของตระกูลทรัมป์ ต้องเผชิญกับปี 2025 ที่เต็มไปด้วยความผันผวน แม้ในช่วงเปิดตัวจะได้รับการคาดหวังไว้อย่างสูงด้วยชื่อเสียงของ “โดนัลด์ ทรัมป์” ประธาธิบดีของสหรัฐฯ แต่ปัจจุบันกองทุนนี้กลับทำผลงานได้น่าผิดหวังและแทบมองไม่เห็นกำไร
ย้อนกลับไปช่วงปลายปี 2024 ทรัมป์ได้สร้างความประหลาดใจให้คนทั่วโลกด้วยการนำชื่อเสียงของตนเองเข้าสู่ธุรกิจคริปโตอย่างเต็มตัว โดยมอบหมายให้ลูกชายอย่าง Eric และ Donald Trump Jr. เป็นผู้ดูแล ซึ่งตามธรรมเนียมปฏิบัติแล้ว ผู้นำระดับประธานาธิบดีมักหลีกเลี่ยงการทำธุรกิจอย่างเปิดเผยเพื่อป้องกันข้อครหาเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน แต่ทรัมป์กลับเลือกที่จะเพิกเฉยต่อความเสี่ยงดังกล่าวและเดินหน้าโปรเจกต์ต่อไปอย่างไม่ลังเล
ในช่วงเปิดตัว World Liberty Financial (WLFI) ได้รับกระแสตอบรับอย่างถล่มทลาย จนสามารถระดมทุนรอบแรกไปได้กว่า 300 ล้านดอลลาร์ (ในราคาเพียง 0.015 ดอลลาร์ต่อโทเคน) พร้อมทั้งเดินหน้ากว้านซื้อคริปโตชั้นนำเข้าพอร์ตเป็นจำนวนมาก ซึ่งในช่วงตลาดกระทิงของปี 2025 มูลค่าสินทรัพย์ที่ตระกูลทรัมป์ถือครองพุ่งสูงขึ้นมหาศาลจนแตะระดับพันล้านดอลลาร์จากการเสนอขายที่ประสบความสำเร็จในตอนแรก
แต่ฝันหวานกลับกลายเป็นความจริงที่ขมขื่น เมื่อการเปิดซื้อขายจริงต่อสาธารณะไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิด นับตั้งแต่เริ่มเทรด ราคาโทเคน WLFI กลับดิ่งลงอย่างต่อเนื่องจนติดลบไปแล้วกว่า 40% จากจุดสูงสุด
ยิ่งไปกว่านั้น กลยุทธ์การเข้าสะสมคริปโตตัวหลักอย่าง WBTC, ETH และ USD1 ในช่วงที่ตลาดกำลังร้อนแรง กลับกลายเป็นดาบสองคมที่ย้อนกลับมาทิ่มแทงพอร์ตการลงทุนของ WLFI เอง เมื่อตลาดปรับฐานส่งผลให้มูลค่าสินทรัพย์เหล่านี้ลดลงอย่างหนักจนทำให้กองทุนต้องเผชิญกับการสูญเสียมูลค่ามหาศาล
ขณะเดียวกัน พอร์ตคริปโตส่วนตัวของตัว โดนัลด์ ทรัมป์ เองก็ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงเช่นกัน โดยมีรายงานว่าความมั่งคั่งในโลกดิจิทัลของเขาร่วงลงจากจุดสูงสุดที่ 1.7 หมื่นล้านดอลลาร์ เหลือเพียงประมาณ 8 พันล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นมูลค่าที่หายไปกว่า 47% ภายในเวลาไม่นาน
อย่างไรก็ตาม หากมองในแง่ดีสำหรับนักลงทุนรอบแรก ปัจจุบัน WLFI ยังมีการซื้อขายอยู่ที่ระดับ 0.13 ดอลลาร์ ซึ่งแม้จะร่วงลงมาอย่างหนักจากจุดสูงสุด แต่ก็ยังถือว่าสูงกว่าราคาขายเริ่มต้นที่ 0.015 ดอลลาร์อยู่หลายเท่าตัว แต่นั่นก็เป็นเพียงรางวัลปลอบใจเล็กน้อยท่ามกลางวิกฤตความเชื่อมั่นที่กำลังถาโถมเข้าใส่โปรเจกต์ของครอบครัวประธานาธิบดีในช่วงสิ้นปี 2025 นี้
ที่มา : Cointelegraph