ตลาดคริปโตในช่วงก่อนวันคริสต์มาสดูเหมือนจะไม่สดใสนัก เมื่อข้อมูลล่าสุดชี้ว่านักลงทุนสถาบันสหรัฐฯ ยังคงเดินหน้าเทขาย Bitcoin อย่างต่อเนื่อง โดยไม่มีการหยุดพักแม้จะเป็นช่วงวันหยุดสำคัญ ส่งผลให้กระแสเงินทุนไหลออกสุทธิจากกองทุน Spot Bitcoin ETF ในวันคริสต์มาสอีฟเพียงวันเดียวสูงถึง 175 ล้านดอลลาร์ และทำให้สหรัฐฯ กลายเป็น “ผู้ขายรายใหญ่ที่สุด” ของตลาดในเวลานี้
ข้อมูลจาก Farside Investors เผยว่า ตลาดวอลล์สตรีทส่งท้ายการซื้อขายก่อนวันคริสต์มาสต์ด้วยตัวเลขที่น่าตกใจ โดยมียอดเงินไหลออกสุทธิ 175.3 ล้านดอลลาร์ในวันที่ 24 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นตัวเลขที่ตอกย้ำทิศทางในแง่ลบอย่างต่อเนื่องตลอด 5 วันทำการที่ผ่านมา รวมมูลค่าเงินทุนที่ไหลออกไปแล้วกว่า 825.7 ล้านดอลลาร์
สถิติระบุชัดเจนว่า นับตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคมเป็นต้นมา กราฟกระแสเงินทุนกลายเป็น “สีแดง” หรือติดลบเกือบทุกวัน โดยมีเพียงวันที่ 17 ธันวาคมเพียงวันเดียวเท่านั้นที่มีแรงซื้อกลับเข้ามา 457.3 ล้านดอลลาร์ สถานการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงแรงกดดันมหาศาลจากฝั่งสถาบันในช่วงส่งท้ายปี

“ภาษี” และ “Options” คือตัวการ
ท่ามกลางความกังวลของรายย่อย นักวิเคราะห์และเทรดเดอร์มองว่า นี่ไม่ใช่สัญญาณการล่มสลาย แต่เป็น “ปัจจัยตามฤดูกาล” โดย Alek เทรดเดอร์ชื่อดังบน X ชี้ว่า แรงขายส่วนใหญ่เกิดจาก “Tax Loss Harvesting” หรือการขายเพื่อบันทึกผลขาดทุนทางภาษี ซึ่งเป็นกลยุทธ์ปกติของนักลงทุนสถาบันในช่วงสิ้นปี และคาดว่าแรงกดดันนี้จะจบลงภายในหนึ่งสัปดาห์
นอกจากเรื่องภาษีแล้ว การครบกำหนดอายุสัญญา Options รายไตรมาสครั้งใหญ่ในวันศุกร์นี้ ยังเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนลดความเสี่ยงลงชั่วคราว โดย Alek ย้ำว่า “นี่เป็นเพียงเหตุการณ์ชั่วคราว และสถาบันจะกลับมาไล่ราคาใหม่เร็วๆ นี้”
ข้อมูลที่น่าสนใจอีกด้านมาจาก Ted Pillows นักวิเคราะห์คริปโตที่ชี้ให้เห็นความแตกต่างของพฤติกรรมตลาดผ่านดัชนี Coinbase Premium ส่วนต่างราคาระหว่าง Coinbase และ Binance ซึ่งติดลบมาตลอดเดือนธันวาคม สิ่งนี้สะท้อนว่าแรงขายหลักมาจากช่วงเวลาเทรดของสหรัฐฯ

ในขณะที่ฝั่งเอเชียกลายเป็นผู้ซื้อรายใหญ่ที่คอยรับของอยู่ในขณะนี้ ซึ่งหาก Bitcoin จะกลับมาเป็นขาขึ้นได้ จำเป็นต้องเรียกความเชื่อมั่นจากฝั่งสหรัฐฯ กลับคืนมาให้ได้ก่อน

อนาคตของ Bitcoin ในปี 2026
แม้กระแสเงินทุน Bitcoin ETF จะชะลอตัวลงมาตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายน แต่ BitBull เทรดเดอร์อีกรายให้มุมมองเชิงบวกในอนาคตว่า การที่ยอดเงินสุทธิ (Net Flows) ติดลบ ไม่ได้หมายความว่า ตลาดจบรอบ แต่ข้อมูลบ่งชี้ว่า “สภาพคล่องเพียงแค่หายไปชั่วคราว แต่ไม่ได้ถูกทำลาย”
BitBull ทิ้งท้ายเอาไว้ว่า “เทรนด์จะเริ่มเปลี่ยน เมื่อกระแสเงินทุนไหลเข้า Bitcoin ETF เริ่มกลับมาเป็นบวก ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นก่อนที่ราคาจะดีดตัวขึ้นอย่างรุนแรงอีกครั้ง”
- ที่มาข่าว:cointelegraph
- ที่มาภาพ:moneyandbanking

