เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. ที่ผ่านมา Michael Saylor ประธานกรรมการบริหารบริษัท Strategy และหนึ่งในผู้สนับสนุน Bitcoin รายใหญ่ที่สุดในภาคธุรกิจสหรัฐฯ กลับมาสร้างแรงในตลาดอีกครั้ง หลังโพสต์ข้อความสั้นๆ บนโซเชียลมีเดีย X ว่า “Back to Orange” ซึ่งสำหรับนักลงทุนที่ติดตามเขามานาน ต่างรู้ดีว่านี่ไม่ใช่คำพูดธรรมดา แต่อาจเป็นสัญญาณว่า การเข้าซื้อ Bitcoin รอบใหม่กำลังจะถูกเปิดเผยในไม่ช้า
หากย้อนดูประวัติการลงทุนของบริษัท Strategy คำว่า “Orange Dot” หรือ “จุดสีส้ม” คือสัญลักษณ์ที่ใช้แทนการซื้อ Bitcoin ที่เกิดขึ้นจริงและได้รับการยืนยันจากกราฟติดตามพอร์ตสาธารณะของ Strategy ซึ่งทุกครั้งที่บริษัทเข้าซื้อ Bitcoin เพิ่ม จะมีจุดสีส้มใหม่ปรากฏขึ้นบนกราฟ การโพสต์ของ Saylor ในลักษณะนี้ จึงมักจะถูกมองว่าเป็นการให้ “คำใบ้ล่วงหน้า” ก่อนการประกาศอย่างเป็นทางการ
จากรูปแบบที่เกิดขึ้นซ้ำๆ ในอดีต การเฉลยมักจะมาในเช้าวันจันทร์ก่อนตลาดเปิด เมื่อบริษัทจะยื่นเอกสารแบบฟอร์ม 8-K ต่อหน่วยงาน ก.ล.ต. สหรัฐฯ (SEC) หรือออกข่าวประชาสัมพันธ์เพื่อยืนยันจำนวน Bitcoin ที่เข้าซื้อ ซึ่งในทางปฏิบัติหมายความว่า การซื้ออาจเกิดขึ้นไปแล้ว เพียงแต่ยังไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ
อย่างไรก็ตาม แม้ Strategy จะมีชื่อเสียงจากการเข้าซื้อ Bitcoin ครั้งละจำนวนมหาศาล แต่ในช่วงหลังมานี้ ผลกระทบต่อราคาตลาดกลับไม่รุนแรงเหมือนในอดีต
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัท Strategy เคยข้ามรอบการซื้อ BTC ไปหนึ่งครั้ง ซึ่งสร้างความผิดหวังอย่างมากให้กับตลาดคริปโตที่กำลังซบเซา และถึงแม้ตลอดเดือนธันวาคมจะมีการเข้าซื้อจริงในระดับ 10,000 BTC ถึง 2 ครั้ง แต่นั่นก็ยังไม่มากพอจะเปลี่ยนทิศทางตลาดในภาพใหญ่ได้
นักวิเคราะห์มองว่า เม็ดเงินระดับนี้ เมื่อกระจายการซื้อออกไปตลอดทั้งสัปดาห์ ถือเป็นเพียงส่วนเล็กน้อยเมื่อเทียบกับมูลค่าการซื้อขายรวมของตลาดโลก อีกทั้งการซื้อส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นในตลาดนอกกระดาน (OTC) ซึ่งแทบไม่ส่งผลต่อราคาตลาด Spot ในทันที ซึ่งเป็นตลาดที่นักลงทุนทั่วไปใช้ซื้อขายกันตามปกติ โดยเฉพาะในช่วงที่ผู้เล่นรายใหญ่คนอื่นๆ ยังคงอยู่ในฝั่งเทขาย
แม้ตลาดจะยังคงต้องรอการยืนยันอย่างเป็นทางการอีกครั้ง แต่เพียงแค่คำว่า “Back to Orange” จาก Michael Saylor ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้นักลงทุนคริปโตจำนวนมากกลับมาเฝ้าหน้าจอ พร้อมกับตั้งคำถามว่า รอบนี้พวกเขาจะซื้อ Bitcoin เข้าคลังอีกกี่ BTC
ที่มา:u.today

