(31 ธ.ค. 2025) – นับเป็นปีที่ยากลำบากสำหรับบริษัทขวัญใจชาวคริปโทฯ อย่าง MicroStrategy ($MSTR) เมื่อสำนักข่าวการเงิน The Kobeissi Letter ได้รายงานข่าวด่วนส่งท้ายปีว่า ราคาหุ้นของบริษัทได้ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดใหม่ในรอบ 52 สัปดาห์ (New 52-week low) ที่ราคา 153.52 ดอลลาร์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยภาพรวมตลอดปี 2025 หุ้น MSTR ปรับตัวลดลงไปเกือบ 50% จากจุดสูงสุดที่เคยทำไว้ราว 360 ดอลลาร์ในช่วงก่อนหน้า สร้างความกังวลให้กับผู้ถือหุ้นรายย่อยเป็นอย่างมาก
สถานการณ์ของ MicroStrategy ในขณะนี้ถือว่ามีความย้อนแย้ง (Divergence) ที่น่าสนใจ เพราะแม้ราคาหุ้นจะดิ่งลงเหว แต่สินทรัพย์อ้างอิงหลักอย่าง Bitcoin กลับยังมีการซื้อขายอยู่ที่ระดับประมาณ 88,000 ดอลลาร์ ซึ่งถือว่าสูงกว่าต้นทุนเฉลี่ยของบริษัทที่ซื้อมาสะสมไว้ที่ 75,000 ดอลลาร์ต่อเหรียญ สำหรับ Bitcoin จำนวนมหาศาลกว่า 672,000 BTC ที่ถือครองอยู่ นั่นหมายความว่าในทางทฤษฎีบริษัทควรจะมีกำไรทางบัญชี แต่ตลาดหุ้นกลับลงโทษราคาหุ้นอย่างรุนแรง
นักวิเคราะห์มองว่าสาเหตุหลักของแรงเทขายมหาศาลนี้ มาจากความกังวลเกี่ยวกับกลยุทธ์การกู้ยืมเงินมาซื้อ Bitcoin (Debt-financed acquisition strategy) ของ Michael Saylor ที่เปรียบเสมือนดาบสองคม แม้ในขาขึ้นจะช่วยทวีคูณผลกำไร แต่ในสภาวะที่ตลาดผันผวนหรือเป็นขาลง หนี้ก้อนโตจะกลายเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาความเสี่ยง (Amplified Volatility) ทำให้หุ้นมีความผันผวนรุนแรงกว่าตัว Bitcoin เองหลายเท่าตัว
นอกจากปัจจัยพื้นฐานแล้ว ในมุมมองของพฤติกรรมตลาดช่วงสิ้นปี การเทขายครั้งนี้อาจเกิดจากกลยุทธ์ “Tax-Loss Harvesting” หรือการที่นักลงทุนจงใจขายหุ้นที่ขาดทุนออกไปก่อนสิ้นปีเพื่อนำไปใช้ลดหย่อนภาษี ทำให้เกิดแรงขายกดดันราคาเพิ่มขึ้นในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม เสียงจากนักลงทุนเริ่มแตกออกเป็นสองฝ่าย โดยฝ่ายหนึ่งมองว่าเป็นโอกาสในการเก็บของถูก แต่อีกฝ่ายเริ่มวิพากษ์วิจารณ์ว่าการถือครอง MSTR นั้นมีความเสี่ยงเกินความจำเป็นเมื่อเทียบกับการถือ Bitcoin โดยตรงผ่าน ETF ที่ปลอดภัยและตรงไปตรงมากว่า
ที่มา: @KobeissiLetter

