<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ทำความรู้จัก “หยง เกิดมาเทรด” ชายผู้ปั้นพอร์ตจาก 5 แสน สู่ 100 ล้าน ใน 4 ปี

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ถ้าหากใครเข้าสู่วงการนักเทรดผ่านการเทรดหุ้นก่อนเข้าสู่โลกคริปโต คงจะคุ้นชื่อ “หยง เกิดมาเทรด” ฉายาของคุณหยง ธํารงชัย เอกอมรวงศ์ อีกหนึ่งตำนานแห่งวงการนักเทรดไทยที่สามารถปั้นพอร์ตแตะหลักร้อยล้านบาทในเวลาไม่กี่ปี แต่น้อยคนนักที่จะทราบว่าเขาไม่ได้เป็นเพียงแค่นักเทรดหุ้นเท่านั้น เพราะเขาเทรดทั้งหุ้นไทย, หุ้นนอก, TFEX, ทองคำ, น้ำมัน, ยางพารา, ข้าวเจ้า, ข้าวโพด, น้ำตาล และอนุพันธ์อีกมากมาย

จากประสบการณ์และผลตอบแทนที่เขาได้รับ กล่าวได้ว่าคุณหยงคือตัวจริงในวงการนักเทรดอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม มีใครเคยสงสัยบ้างหรือไม่ว่าทำไมคุณหยงถึงตัดสินใจเดินบนเส้นทางสายนักเทรด เคยขาดทุนครั้งใหญ่ในชีวิตบ้างหรือไม่ และเขาปั้นพอร์ตร้อยล้านในเวลาสั้น ๆ ได้อย่างไร ซึ่งถ้าหากใครเคยคิดทำนองนี้ ก็มาสำรวจเรื่องราวในฐานะนักเทรดของคุณหยงไปพร้อมกันกับสยามบล็อกเชนได้เลย

จุดเริ่มต้นที่ทำให้ตัดสินใจลงทุน

สำหรับประเด็นนี้ คุณหยงเริ่มต้นด้วยการกล่าวว่า “พี่เป็นเด็กเกเรนิดนึง” โดยอธิบายว่าตนเองไม่ชอบการทำงานในระบบ ไม่ต้องการทำงานแบบ 9 ต่อ 5 (เข้างาน 9 โมงเช้า เลิกงาน 5 โมงเย็น) ถึงกับกล่าวว่า “นั่นคือสิ่งสุดท้ายในชีวิตที่จะทำ”

“แม้กระทั่งตอนที่พี่ไปเรียนต่างประเทศมาประมาณสิบกว่าปี แล้วพอกลับมา งานแรกที่หาเลยคืองาน freelance” คุณหยงกล่าว

อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นคุณหยงก็พบว่าการทำงาน freelance ไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุดของชีวิต จนต้องยอมสมัครเข้าทำงานบริษัททั้งที่ใจไม่ต้องการทำงานตามระบบ ขณะเดียวกัน คุณหยงกล่าวด้วยว่าชีวิตการทำงานบริษัททำให้เขาไม่สามารถทำสิ่งที่อยากทำได้ เพราะ “ไม่มีเวลา”

“ลึก ๆ อยู่ในใจ เรารู้สึกว่ามันไม่ตอบโจทย์เรา เราอยากทำนู่นทำนี่มากมาย มันมีหนังสืออีกไม่รู้ตั้งกี่เล่มที่อยากอ่าน เพลงอีกไม่รู้กี่เพลงที่อยากฟัง หนังอีกไม่รู้กี่เรื่องที่อยากดู ที่ที่อยากไป อาหารที่อยากกิน ทุกอย่างเราทำไม่ได้เพราะเราไม่มีเวลา”

หลังจากนั้น คุณหยงก็ได้รู้จักกับการลงทุน และเมื่อได้เริ่มลงทุน เริ่มเห็นเงิน เริ่มจับทางได้ คุณหยงก็ค้นพบว่าแท้จริงแล้วตนเองต้องการหาเงินด้วยวิธีไหน

“จริง ๆ แล้วที่เรามาเล่นหุ้นน่ะ มาเทรดเนี่ย คือต้องการอิสรภาพที่เงินมันให้เราได้ มันช่วยให้ได้กินสิ่งที่อยากกิน มีเวลาอ่านหนังสือเล่มที่อยากอ่าน ดูหนัง ฟังเพลง ไปเที่ยว และพี่ก็รู้ว่า เนี่ยคือสิ่งที่พี่ปรารถนา เพราะว่าเราไม่ได้อยากอยู่ในระบบ เราต้องเอาเงินของเรา ซื้อชีวิตของเรากลับมาจากระบบกลไก 9 ต่อ 5 นั่นแหละก็คือที่มาของ Freedom Trader”

ติดลบ 22 ล้านบาทภายในวันเดียว

เหตุการณ์นี้ถือเป็นบทเรียนครั้งใหญ่สำหรับคุณหยงเลยทีเดียว โดยในอดีต คุณหยงเคยตัดสินใจเข้าซื้อหุ้นของบริษัทแห่งหนึ่งที่ทำกิจการด้านอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งก่อนหน้านี้คุณหยงเคยทำการบ้านอย่างหนักเพื่อศึกษาบริษัทดังกล่าว แล้วพบว่าบริษัทแห่งนี้มีพื้นฐานดีมาก กิจการดีมาก และ “ทุกอย่างดี” ดังนั้นเขาจึงทุ่มเงินซื้อหุ้นตัวนี้

“เขาเจอน้ำท่วมปี 2554 หุ้นเละ แต่ก็กลับมาได้ พี่มองแล้วเห็นว่า เฮ้ย หุ้นดี ผู้บริหารดี ทุกอย่างดี” คุณหยงกล่าว “ยิ่งศึกษาเยอะก็ยิ่งมั่นใจมาก ยิ่งมั่นใจมากก็ยิ่งใส่เยอะ แล้วอีกไม่กี่วันข้างหน้าก็จะประกาศงบ พี่ก็มั่นใจ สบาย ๆ เห็นเงินแน่นอน”

ทว่าเรื่องราวกลับพลิกผัน เพราะในเช้าวันหนึ่ง โรงงานของบริษัทแห่งนี้กลับเกิดเหตุไฟไหม้ ดังนั้นพอเปิดตลาดในตอนเช้า หุ้นจึงถูกห้ามซื้อขาย อีกทั้งยังหุ้น Floor ทันทีที่เปิดตลาดตอนบ่าย

“พอมาอีกวันหนึ่ง ก็ลงต่ออีก ทั้ง ๆ ที่พี่รู้นะว่าราคานั้นมันต่ำมาก ไม่ควรขาย รู้นะ ทำการบ้านมาอย่างดี รู้ไม่ควรขาย แต่ใจมันเอาไม่อยู่ เลยขายไป พี่ lose นะ โดนไป 22 ล้าน”

“แล้วงบออกมาดีด้วย เพราะเป็นงบไตรมาสที่แล้ว ก็เป็นบทเรียนราคาแพงว่า อะไรที่คิดว่าชัวร์ มันก็ไม่ชัวร์ อย่าไปมั่นใจอะไรเกินเหตุ”

จาก 5 แสน สู่ 100 ล้าน ภายใน 4 ปี

ในประเด็นนี้ คุณหยงกล่าวก่อนเลยว่า “จะเอาสูตรของพี่ไปใช้ แล้วหวังผลลัพธ์เดียวกันไม่ได้” เพราะ “ถ้าไม่มีฝีมือ มาไม่ถึงแน่นอน แต่ตลาดต้องดีด้วย”

คุณหยงเล่าว่าวันที่เขาลงเงินไป 5 แสนบาท คือช่วงที่ SET ปรับฐานลงมาต่ำมาก ดังนั้นคุณหยงจึงชี้ให้เห็นว่า “วันนั้นเราเข้าอะไรไป เราเล่น long ตามเทรนด์ไป แนวโน้มคือส่วนใหญ่ก็ได้กำไร”

ขณะเดียวกัน คุณหยงได้อธิบายเสริมไว้ว่า “สิ่งที่ทำให้พอร์ตโตจริง ๆ คือตลาดดี และจังหวะชีวิตดี” เนื่องจากก่อนหน้านี้คุณหยงอยู่ในวงการนักเทรด TFEX มาก่อน จนกระทั่งวันหนึ่งในปี 2011 มีรุ่นพี่เข้ามาแนะนำให้คุณหยงสนใจตลาดหุ้นบ้าง โดยบอกว่า “ดูไว้ เขาว่าตลาดหุ้นจะดี”

ในเวลาต่อมา คำกล่าวของรุ่นพี่คนนั้นก็กลายเป็นความจริง เพราะปี 2012 คือปีที่ตลาดหุ้นเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยตลาดได้ปรับขึ้นจาก 1,000 จุด เป็น 1,600 จุด ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบ 23 ปีเลยทีเดียว

“เรียกว่าตลาดดีมาก ๆ แล้วพี่เข้ามา at the right time เลย” คุณหยงกล่าว “trade set up เปลี่ยนนิดหน่อย ยังดูกราฟเป็นหลัก แต่จังหวะมันพาเราไป ตลาดมันดี ช่วยพี่อยู่ประมาณ 80% กับฝีมือที่เราพอจะรู้เรื่องกราฟ บริหารหน้าตักเป็น”

“พูดตรง ๆ นะ ตลาดมันดีแบบนี้กับทุกคน แต่ไม่ใช่ทุกคนที่ปั้นพอร์ตได้ พี่ถึงบอกว่าสิ่งนี้ทำตามไม่ได้ เพราะถ้าเอาเรื่องเดียวกันมาทำตอนนี้ พี่ว่าพอร์ตไม่ไป เพราะตลาดมันไม่ไป”

“คำถามคือ ฟังเรื่องนี้แล้วจะได้อะไร? อย่างแรกเลย โอกาสที่เข้ามาในชีวิตของเราแต่ละคนไม่เหมือนกัน เราต้องคว้าในแบบของเราเอง บางทีต้องตั้งใจดูและทำการบ้านให้เยอะ แล้วเมื่อตลาดมันมา หรือเมื่อโอกาสมันมา ฝีมือของเราคือต้องคว้าให้ทัน”

ที่มา: GOFX Thailand