แม้ว่าปี 2024 กระแสความนิยมของ Bitcoin จะเริ่มซบเซาลงไปบ้าง แต่การขุด Bitcoin ยังคงเป็นกิจกรรมที่สามารถทำกำไรได้ ทว่าการเลือกเครื่องขุดที่มีประสิทธิภาพสูงและคุ้มค่า นั้นสำคัญมาก เพราะส่งผลต่อต้นทุน และผลกำไร ของคุณโดยตรง
บทความนี้เราจึงขอนำเสนอ 5 เครื่องขุด Bitcoin ที่ดีที่สุดในปี 2024 พร้อมข้อมูลรายละเอียด เพิ่มเติม เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกเครื่องขุดที่เหมาะสมกับความต้องการ และงบประมาณของคุณได้อย่างชาญฉลาด
1.Bitmain Antminer S19 XP Hydro (255Th)
Bitmain Antminer S19 XP Hydro (255Th) เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2022 และมีความโดดเด่นในโลกของการขุด Bitcoin โดยได้รับความสนใจจากการนำเทคโนโลยีการระบายความร้อนด้วยของเหลวมาใช้ ซึ่งถือเป็นการกำหนดมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมการขุด Bitcoin ที่มีประสิทธิภาพและเพิ่มความเร็วในการขุด
จุดเด่นของเครื่องขุดตัวนี้คือ การนำเสนอประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่ยอดเยี่ยมและเทคโนโลยีการระบายความร้อนด้วยของเหลว การรวมวิธีการระบายความร้อนขั้นสูงแสดงถึงความทุ่มเทของบริษัทในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน โดยใช้พลังงานในการขุดอยู่ที่ 20.8 J/TH
ข้อดี
- พลังการประมวลผลที่น่าประทับใจที่ 255 TH/s พร้อมกับประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่ 20.8 J/TH
- ราคาเครื่องขุดยังคงต่ำกว่า 7,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 255,000 บาทไทย)
- ประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่ยอดเยี่ยมเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้าและคู่แข่ง
- ระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวช่วยเพิ่มการกระจายความร้อนได้ดียิ่งขึ้น
- ตู้คอนเทนเนอร์ ANTSPACE HK3 ที่เปิดตัวสามารถรองรับเครื่องขุดได้ถึง 210 เครื่อง โดยใช้พลังงาน 1 MW
ข้อเสีย
- ต้นทุนเริ่มต้นสูงอาจทำให้ผู้ซื้อบางรายและผู้เริ่มต้นหลีกเลี่ยง
2. Bitmain AntMiner S19 Pro
Bitmain AntMiner S19 Pro เป็นเครื่องขุด Bitcoin ที่ดีที่สุดในแง่ของอัตราการขุดเมื่อเทียบกับต้นทุน โดยเครื่องขุด S19 Pro ตัวนี้ถือเป็นตัวเลือกชั้นนำในตลาดการขุด Bitcoin ด้วยอัตราการขุดที่โดดเด่นถึง 110 Th/s ในเรทราคาสบายกระเป๋าเพียงแค่ $680 – $1,000 (ไม่เกิน 37,000 บาท) เครื่องนี้จึงเป็นผู้นำในหมวดเครื่องขุดราคาประหยัดไปโดยปริยาย
Bitmain AntMiner S19 Pro โดดเด่นด้วยอัตราการขุดที่ยอดเยี่ยม ซึ่งจะนำไปสู่ผลกำไรที่สูง นอกจากนี้ยังมีแหล่งจ่ายไฟในตัวและบริการบำรุงรักษามืออาชีพจากบริษัท Sesterce ทำให้เครื่องขุดคริปโตตัวนี้สามารถขุดได้อย่างไร้กังวลเรื่องการบำรุงรักษา
ข้อดี
- อัตราการขุดที่น่าประทับใจ 110 Th/s สำหรับการขุดที่มีประสิทธิภาพสูง (เมื่อเทียกับราคา)
- เสนอเปอร์เซ็นต์ผลตอบแทนต่อปีที่สูงถึง 195% พร้อมอัตรากำไร 137%
- มาพร้อมกับแหล่งจ่ายไฟในตัว ช่วยให้การตั้งค่าระบบง่ายขึ้น
- มีให้บริการบนแพลตฟอร์ม Sesterce mining ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงได้ง่าย
- บริการบำรุงรักษาโดยมืออาชีพจาก Sesterce ลดความกังวลในการดำเนินงาน
ข้อเสีย
- เครื่องขุดเป็นตัวประหยัด อาจไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการกำลังขุดสูง ๆ
3.Canaan Avalon Made A1366
Canaan Avalon Made A1366 เป็นเครื่องขุด Bitcoin ประสิทธิภาพสูง จากผู้ผลิตชาวจีน Canaan เปิดตัวเครื่องขุดรุ่นนี้ ในเดือนพฤศจิกายน 2022 ซึ่งเป็นการอัปเกรดต่อมาจากเครื่องขุดรุ่นยอดนิยม A10 โดยมันมีจุดเด่น โดยมีอัตราการขุด 130 Th/s พร้อมทั้งอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย
เครื่องขุดตัวนี้ยังคงสืบทอดความสำเร็จของรุ่นก่อนโดยให้ประสิทธิภาพในการขุดที่ดีขึ้นและประสบการณ์การใช้งานที่เป็นมิตร ด้วยความสามารถในการขุดที่ทรงพลัง กลไกการระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพ และชื่อเสียงของ Canaan ในฐานะผู้ผลิตเครื่องขุดชื่อดัง ด้วยราคาขายที่ $3,000 (ประมาณ 110,000 บาท)
ข้อดี
- อัตราการขุด 130 TH/s สำหรับการดำเนินการขุดที่มีประสิทธิภาพ
- อินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายช่วยให้การกำหนดค่าและการตรวจสอบอุปกรณ์ง่ายขึ้น
- ติดตั้งพัดลม 6 ตัวเพื่อการระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพ ป้องกันความร้อนเกิน
- เปิดตัวในฐานะการอัปเดตที่น่าสนใจจากรุ่น A10 ที่ได้รับการตอบรับดี
- ใช้อินเทอร์เฟซ Ethernet เพื่อการเชื่อมต่อที่ไร้รอยต่อ
ข้อเสีย
- ระดับเสียงรบกวนตอนเปิดเครื่องสูงถึง 75 เดซิเบล
4. Dragonmint T1
Dragonmint T1 จาก Halong Mining โดดเด่นในเรื่องการใช้พลังงานต่ำ ขุด Bitcoin ได้เร็ว 16 TH/s ด้วยการใช้พลังงานเพียง 1480 วัตต์เท่านั้น ประหยัดไฟ ลดค่าไฟ คุ้มค่า เหมาะกับนักขุดมือใหม่ และนักขุดที่มีงบจำกัด
ข้อดี
- การใช้พลังงานต่ำอย่างน่าทึ่งที่ 1480 วัตต์ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย
- ผลิตโดย Halong Mining ซึ่งเป็นที่รู้จักในด้านฮาร์ดแวร์การขุดที่มีคุณภาพ
- Dragonmint T1 มือสองขายในราคาเพียง $1,295 บน Amazon (ประมาณ 50,000 บาท)
ข้อเสีย
- มีจำหน่ายเฉพาะรุ่นมือสองเท่านั้น
5.Ebang Ebit E11++
Ebang Ebit E11++ ถือเป็นเครื่องขุด Bitcoin ราคาถูกที่สุดจากทั้งหมดที่เราได้นำเสนอมา ด้วยความสมดุลระหว่างอัตราการขุดและการใช้พลังงาน โดยมีการใช้พลังงานเพียง 1980 วัตต์ แต่สามารถให้อัตราการขุดได้สูงถึง 44 TH/s ซึ่งเป็นการสร้างสมดุลระหว่างประสิทธิภาพและการใช้พลังงานได้อย่างลงตัว
จุดเด่นของ Ebang Ebit E11++ คือ การเข้าถึงได้ในราคาประหยัดและโอกาสในการลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานลงไป ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักขุดที่ต้องการยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น ในราคาเพียง $350 เท่านั้น (ประมาณ 13,000 บาท)
ข้อดี
- อัตราการขุด 44 TH/s สำหรับความสามารถในการขุดที่มั่นคง
- การใช้พลังงานที่มีประสิทธิภาพที่ 1980 วัตต์ ลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน
- โอกาสในการซื้อ Ebang Ebit E11++ มือสองในราคา $350 บนแพลตฟอร์มเช่น eBay
ข้อเสีย
- ระดับเสียงรบกวนที่สูง อาจไม่เหมาะสำหรับการตั้งค่าการขุดในบ้าน
สรุป
การเลือกเครื่องขุด Bitcoin ที่ดีที่สุดในปี 2024 ล้วนขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และงบประมาณของตัวนักขุด ไม่ว่าจะเป็นการขุดเพื่อผลตอบแทนสูงสุดหรือการเริ่มต้นที่คุ้มค่า ทุกเครื่องที่แนะนำในบทความนี้ล้วนมีประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือสูง อย่างไรก็ตาม การทำวิจัยและเข้าใจถึงความเสี่ยงก่อนที่จะลงทุนในเครื่องขุด Bitcoin ยังคงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้การขุดคริปโตของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพสูงสุด
บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น มิได้เป็นคำแนะนำหรือการชี้นำการลงทุน ทางเราจะไม่รับผิดชอบความเสียหายใดๆ ที่เกิดจากความเสี่ยงในด้านการลงทุนทั้งสิ้น ผู้ลงทุนควรศึกษาและตัดสินใจให้ดีก่อนลงทุน
ที่มา:tokentax