กลายเป็นประเด็นร้อนแรงในโลกโซเชียล ซึ่งมีทั้งผู้คนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับคำพูดที่ว่า “เงินสดคือหนี้สิน” เมื่อฟังครั้งแรกหลายคนอาจจะรู้สึกงงและสงสัยว่าเป็นไปได้อย่างไร แต่ในวันนี้ เราจะพาคุณไปเจาะลึกถึงความหมายที่แท้จริงของวลีนี้กัน
จุดเริ่มต้นของวลีเด็ดนี้เกิดขึ้นมาจาก คุณ CK Fastwork นักธุรกิจหนุ่มชาวต่างชาติแต่มีหัวใจเป็นชาวไทย ที่ได้โพสต์รูปภาพพร้อมข้อความว่า “เงินคือหนี้สิน” ในเฟซบุ๊กส่วนตัวเมื่อ 1 วันที่แล้ว (16 ก.ย.) หากใครติดตามเขาอยู่จะรู้ว่า ผู้ชายคนนี้ไม่ธรรมดา ทั้งความรู้และประสบการณ์ที่เขามีในโลกการลงทุน มันอาจคุ้มค่ากับการเปิดใจรับฟังความเห็นของผู้ชายคนนี้
วิเคราะห์วลีนี้แบบเจาะลึก
คำว่า “เงินสดคือหนี้สิน” หากเราจะเข้าใจคำนี้อย่างแท้จริง คงหนีไม่พ้นการทำความเข้าคำว่า ‘ทรัพย์สิน’ กับ ‘หนี้สิน’ เสียก่อน
หากพูดแบบให้เข้าใจง่ายๆ ‘ทรัพย์สิน’ หมายถึง สิ่งที่ทำให้รายได้ของคุณเพิ่มขึ้น ในทางกลับกัน ‘หนี้สิน’ หมายถึง สิ่งที่ทำให้รายจ่ายของคุณเพิ่มขึ้น
เมื่อพูดถึงการเก็บเงินสดเพื่อการออม หลายคนมองว่าไม่ใช่การตัดสินใจที่ดีนัก เพราะเงินสดมีแนวโน้มเสื่อมค่าตามอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากรัฐบาลมีการปั๊มเงิน หรือ เพิ่มจำนวนเงินที่มีอยู่ในระบบเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี
หากคุณเก็บเงินไว้เฉย ๆ โดยไม่ทำให้เงินนั้นเติบโต เมื่อเวลาผ่านไป มูลค่าของเงินก็จะลดลง ซึ่งเป็นผลเสียสำหรับผู้ที่ออมเงินในรูปแบบ ‘เงินสด’ เท่านั้น
อธิบายแบบเข้าใจง่าย ๆ
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณเก็บเงินไว้ในธนาคาร 100 บาทในวันนี้ เมื่อเวลาผ่านไป 1 ปี อัตราเงินเฟ้อมากขึ้น 4% (อ้างอิงจากอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานของสหรัฐฯปี 2023) ทำให้เงินคุณ 100 บาทในวันนี้ เวลาผ่านไป 1 ปี มูลค่าที่แท้จริงจะลดลงเหลือเพียงประมาณ 96 บาท
หมายความว่าในขณะที่คุณถือเงินจำนวน 100 บาทเท่าเดิม แต่สิ่งที่คุณได้มาจากการนำเงินจำนวนนี้ไปซื้อก็จะลดลง และไม่ต้องพูดถึงอีก 10 ปีข้างหน้า มูลค่าของเงินคุณอาจหายไปเกือบครึ่ง แค่คุณเลือกเก็บเงินไว้ในรูปของ ‘เงินสด’
ดังนั้น การ Saving เป็นเงินสดจึงไม่ใช่ทางเลือกที่ฉลาดที่สุดในระยะยาว ในโลกการเงินยังมีสินทรัพย์หลายประเภทที่สามารถให้ผลตอบแทนที่ชนะเงินเฟ้อได้ เช่น ทองคำ หุ้น คริปโต หรืออสังหาริมทรัพย์ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการศึกษาและวางแผน Money Management อย่างรอบคอบ เพื่อให้การลงทุนของคุณมีความปลอดภัยและสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว
อย่างไรก็ตามปัญหาคือเงินสดมีแนวโน้มเสื่อมมูลค่าลงตามกาลเวลา เนื่องจากผลกระทบจาก เงินเฟ้อ ซึ่งก็ไม่ต่างกับทรัพยากรอื่น ๆ เช่น รถยนต์หรือโทรศัพท์มือถือที่มูลค่าลดลงเมื่อเวลาผ่านไป ในขณะที่บางคนอาจมองว่า “Cash is King” เพราะการมีเงินสดพร้อมในยามที่ตลาดการเงินผันผวน จะช่วยให้สามารถช้อนซื้อสินทรัพย์ที่ราคาตกลงมาได้ และมีโอกาสนำไปสู่การทำกำไรที่มากขึ้นในอนาคต
สรุป
ข้อดีหลักของ “เงินสด” คือมันเป็นทรัพยากรที่มีสภาพคล่องสูงที่สุด เราสามารถใช้แลกเปลี่ยนกับอะไรก็ได้ตามความต้องการในเวลานั้น และอาจทำให้คุณหลุดออกจากสถานการณ์ที่ไม่คาดฝันได้ แต่สิ่งที่เรากำลังพูดถึงในวันนี้คือ “เงินสดนั้นคือหนี้สินจริงหรือไม่” คำตอบที่ได้อาจจะไม่ถูกใจใครบางคน แต่ผมเชื่อว่า เงินสดนั้นมีข้อดีมากมาย แต่ถ้าคุณเก็บมันไว้ในธนาคารอย่างเดียว มันก็ไม่ต่างอะไรจาก ‘หนี้สิน’ นั่นเอง