Arthur Hayes ผู้ร่วมก่อตั้ง BitMEX ได้ออกมากล่าวในบล็อกโพสต์ล่าสุดว่า Bitcoin อาจได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มสภาพคล่องมากกว่า 612 พันล้านดอลลาร์ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ซึ่งอาจช่วยชดเชยความผิดหวังด้านกฎระเบียบได้
การเคลื่อนไหวดังกล่าว เกิดขึ้นหลังจากความล่าช้าในการออกกฎหมายในอุตสาหกรรมคริปโตที่อาจสร้างแรงกดดันต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน แม้ว่าการเข้ารับตำแหน่งของ Donald Trump ในวันที่ 20 ม.ค. นี้จะถูกมองว่าเป็นข่าวดีต่อตลาดคริปโตก็ตาม
“การผิดหวังจากทีมของ Trump ที่ยังไม่สามารถผลักดันกฎหมายที่เอื้อคริปโตและธุรกิจได้ อาจถูกกลบด้วยสภาพคล่องดอลลาร์ที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลในไตรมาสแรก”
Hayes คาดการณ์ว่า เงินที่พิมพ์ใหม่นี้จะกระตุ้นให้ราคาของ Bitcoin พุ่งแตะจุดสูงสุดในเดือนมีนาคม ก่อนที่จะเผชิญกับการปรับฐานครั้งใหญ่ อย่างไรก็ตาม Hayes เตือนว่าความผิดหวังเกี่ยวกับนโยบายคริปโตที่ล่าช้าจากฝ่ายบริหารของ Trump อาจกระตุ้นการขายครั้งใหญ่ในตลาดคริปโตและสินทรัพย์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Trump
ในขณะที่บางฝ่ายยังคงมองในแง่ดี โดยนักวิเคราะห์หลายคนยังเชื่อว่า Bitcoin จะมีจุดสูงสุดของรอบอยู่เหนือระดับ 150,000 ดอลลาร์ในช่วงปลายปี 2025 หลังได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของปริมาณเงินทั่วโลกที่คาดว่าจะแตะ 20 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งอาจนำการลงทุนถึง 2 ล้านล้านดอลลาร์เข้าสู่ Bitcoin
สำหรับการปรับฐานราคาล่าสุดของ Bitcoin มีสาเหตุมาจากกิจกรรมของนักลงทุนสถาบันที่ลดลงในช่วงเทศกาล อย่างไรก็ตาม Binance Research ระบุว่านักลงทุนเหล่านี้มักกลับมาปรับเพิ่มพอร์ตการลงทุนในช่วงต้นปี ซึ่งอาจช่วยหนุน Bitcoin กลับสู่ระดับ 100,000 ดอลลาร์ก่อนการเข้ารับตำแหน่งของ Trump
ทั้งนี้ บริษัทรายใหญ่ในตลาด เช่น KULR Technology Group ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ NYSE ยังคงมีแนวโน้มในเชิงบวก ในขณะที่บริษัทคาดการณ์ว่า Bitcoin อาจจะทะลุระดับ 200,000 ดอลลาร์ในปี 2025 หลังการซื้อเพิ่มในช่วงราคาต่ำที่ 97,000 ดอลลาร์
ที่มา: Cointelegraph