‘บ้านบัวลอย’ ร้านขนมไทยเล็กๆ ที่ตั้งอยู่แถวสี่แยกวังหิน กลายเป็นกระแสไวรัลบน TikTok ชั่วข้ามคืน ความพิเศษอยู่ที่เจ้าของร้านหนุ่มนิเทศจุฬาฯ วัย 28 ปี ‘คุณวิน’ ที่ผสานเสน่ห์ขนมไทยเข้ากับเทคโนโลยีล้ำสมัยอย่าง ChatGPT เพื่อปรับสูตรจนได้รสชาติใหม่ที่โดนใจชาวโซเชียล ทำให้ร้านเล็กๆ แห่งนี้ถูกพูดถึงไปทั่วโลกออนไลน์
คุณวินเล่าว่า เขาไม่เคยมีประสบการณ์ทำขนมมาก่อน จึงต้องเริ่มต้นตั้งแต่การปั้นแป้ง และพัฒนาสูตรน้ำกะทิเองทั้งหมด เขาเดินทางชิมบัวลอยทั่วกรุงเทพฯ กว่า 30 ร้าน เพื่อนำมาปรับใช้ในสูตรของตัวเอง แต่สิ่งที่ทำให้เขาต่างจากคนอื่นคือการเลือกใช้ AI อย่าง ChatGPT เป็นผู้ช่วยในการปรับสูตรต่างๆ
ChatGPT กลายเป็นเพื่อนคู่คิดที่ช่วยวิเคราะห์และปรับสูตรบัวลอย คุณวินสามารถถามได้ทุกอย่าง ตั้งแต่วิธีลดความหวาน เพิ่มความมัน หรือแม้กระทั่งเลือกกะทิยี่ห้อไหนดี AI ตัวนี้ช่วยเขาประหยัดเวลาและทดลองจนได้สูตรที่ลงตัว
เขาปรับสูตรกว่า 100 ครั้ง จนได้บัวลอยเม็ดเล็กเหมือนไข่มุก เคี้ยวหนึบเหมือนโมจิ และน้ำกะทิหอมมัน เขาเรียนรู้ทุกขั้นตอน ตั้งแต่วิธีการตวงวัตถุดิบไปจนถึงเวลาต้ม ทำให้ตระหนักว่าการทำขนมไทยต้องใส่ใจในทุกรายละเอียด และนี่คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ร้านเล็กๆ แห่งนี้กลายเป็นที่จดจำในวันนี้
“จากคนที่ไม่เคยจับแป้งเลย ไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าแป้งต่างกันยังไง ศึกษาทุกอย่างใหม่หมด แม้แต่การใส่เพิ่ม 5-10 กรัมทุกอย่างจะรสชาติเปลี่ยนหมด การต้มก่อนต้มหลัง การทิ้งไว้นานไม่นาน ทุกอย่างมีผลหมดเลย ทำให้เรารู้ว่าขนมหนึ่งอย่างมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริงๆ”
คุณวินเล่าว่าเคล็ดลับสำคัญที่ทำให้สูตรบัวลอยของเขาปังขึ้นมาได้จริงๆ ก็คือการ “คุยกับ ChatGPT” เขาใช้ AI ตัวนี้เป็นเหมือนเพื่อนคู่คิด ที่ช่วยแนะนำทุกอย่างตั้งแต่การเลือกกะทิยี่ห้อไหนดี ไปจนถึงช่วยปรับสูตรบัวลอยให้อร่อยตรงใจลูกค้า โดยไม่ต้องเสียเวลาไปค้นคว้าเองให้ยุ่งยาก แค่บอกความต้องการว่าอยากได้รสชาติแบบไหน ChatGPT ก็ช่วยวิเคราะห์และลิสต์คำตอบให้ครบถ้วน
“อย่างบางทีผมอยากได้กะทิที่ไม่มันมากแต่หอม ก็แค่บอก ChatGPT มันก็ช่วยแนะนำทั้งข้อดีข้อเสียของแต่ละยี่ห้อมาให้เลย” คุณวินเสริมว่า เขาใช้วิธีเขียนสูตรที่มีอยู่ลงไป แล้วให้ ChatGPT ช่วยปรับส่วนผสมให้เหมาะสม เช่น ถ้าอยากลดปริมาณกะทิลง 50 มิลลิลิตร AI ก็จะคำนวณสูตรใหม่มาให้ทันที ไม่ต้องมานั่งคำนวณเองให้เสียเวลา
“ผมลองทำสูตรตาม ChatGPT มันให้แพตเทิร์นมาคล้ายๆ กับที่เคยเรียนรู้ แต่สิ่งที่สำคัญคือมันช่วยให้ผมปรับความหวาน ความเค็ม จนได้รสชาติที่พอดี อย่างน้ำกะทิที่อยากให้ติดเค็มนิดๆ แต่ไม่หวานเกิน ทำเป็นร้อยรอบจนเจอสูตรที่ใช่ แล้ว AI นี่แหละช่วยผมลดเวลาไปได้เยอะเลย”
อย่างไรก็ตามแม้จะแก้ปัญหาเรื่องสูตรได้ แต่เขากลับพบปัญหาใหม่ คือร้านไม่มีคนรู้จัก บางวันขายได้เพียง 1 ถ้วยเท่านั้น คุณวินเริ่มหมดกำลังใจ แต่ก็ยังยืนหยัดสู้ต่อ จนวันหนึ่ง เพื่อนมหาวิทยาลัยชื่อ “เดียร์” แวะมาที่ร้านและลงคลิปรีวิวใน TikTok ก่อนทำให้ร้านบ้านบัวลอยกลายเป็นไวรัลในหมู่สายหวาน
คลิปนี้กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ที่ทำลูกค้าเริ่มหลั่งไหลมาที่ร้าน จากเมื่อก่อนที่ขายเฉลี่ยได้ไม่เกิน 10-15 ถ้วย มาตอนนี้เปิดร้านเพียงแค่ 2 ชั่วโมง ก็ขายดีจนของหมด ทำยอดขายพุ่งสูงสุดถึง 175 ถ้วยต่อวัน
ก่อนเริ่มทำ “บ้านบัวลอย” คุณวินเจอคำเตือนสารพัดว่าช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดี เปิดร้านก็ไม่คุ้ม ยิ่งเลือกทำเลแถวบ้านยิ่งไม่มีทางรอด เพราะทำเลเป็นเรื่องสำคัญต่อยอดขายมากๆ แต่เขาคิดไว้แล้วว่า “ของดีอยู่ที่ไหนก็มีคนมากิน”
แต่พอทำจริงๆ คุณวินก็ได้บทเรียนว่า ของดีอย่างเดียวไม่พอ ถ้าไม่มีใครรู้จัก ต่อให้ทำดีแค่ไหนก็ไม่มีคนมากินอยู่ดี เขาบอกว่า การทำธุรกิจสมัยนี้ การสร้างตัวตนบนโลกออนไลน์สำคัญไม่แพ้คุณภาพสินค้า เพราะอย่างน้อยที่สุด คนต้องรู้จักร้านก่อน แล้วพวกเขาถึงค่อยตัดสินใจว่าจะมากินหรือไม่
คุณวินแชร์ทริกแบบง่ายๆ ว่า อย่ากลัวที่จะลองหาทางโปรโมตร้าน เช่น จ้างรีวิว ทำคอนเทนต์เอง หรือให้คนช่วยรีวิว ยิ่งคนเห็นร้านมากเท่าไหร่ โอกาสขายก็ยิ่งเยอะขึ้น เขาย้ำว่า ถ้าคุณชอบและตั้งใจกับสิ่งที่ทำ โซเชียลมีเดียจะช่วยเป็นสะพานให้คนรู้จักและอยากลองสิ่งที่คุณทำแน่นอน
ที่มา:sentangsedtee