สมาชิกสภาคองเกรสของสหรัฐฯ กำลังเดินหน้าจัดการกับนักลงทุนคริปโทที่ใช้ดินแดนเปอร์โตริโกเป็นแหล่งหลบเลี่ยงภาษี
ล่าสุด ส.ส. Nydia Velázquez จากรัฐนิวยอร์ก ได้เสนอร่างกฎหมาย “Fair Taxation of Digital Assets in Puerto Rico Act” เพื่อปิดช่องโหว่ที่ทำให้นักลงทุนบางกลุ่ม หลีกเลี่ยงภาษี จากกำไรที่ได้จากการลงทุนคริปโท
ตามรายงานจาก Bloomberg เมื่อวันที่ 21 เมษายนที่ผ่านมา ระบุว่า ร่างกฎหมายนี้จะปรับปรุงข้อกฎหมายภายในของเปอร์โตริโก เพื่อบังคับให้นักลงทุนที่ได้กำไรจากสินทรัพย์ดิจิทัลต้องเสียภาษีทั้งในระดับท้องถิ่นและของรัฐบาลกลาง โดยเนื้อหากฎหมายจะเพิ่มในประมวลรหัสรายได้ของเปอร์โตริโก ซึ่งจะส่งผลให้รายได้จากคริปโทต้องเข้าเกณฑ์ภาษีแบบเดียวกับรายได้ทั่ว ๆ ไป
Nydia Velázquez ให้เหตุผลว่า การไหลเข้ามาของนักลงทุนคริปโทไม่ได้ช่วยเศรษฐกิจท้องถิ่นอย่างที่คิด แต่กลับทำให้ราคาที่อยู่อาศัยพุ่งสูงขึ้น คนในท้องถิ่นถูกเบียดออกจากชุมชน และเปอร์โตริโกยังต้องแบกรับภาระทางสังคมเพิ่ม ทั้งที่ประชากรเกือบ 40% ยังอยู่ในความยากจน ขณะที่รัฐบาลกลางก็เสียรายได้ภาษีไปมหาศาล
เปอร์โตริโก กลายเป็นจุดหมายปลายทางของเศรษฐีคริปโท นับตั้งแต่ปี 2012 เมื่อออกกฎหมาย Act 20 และ กฎหมาย Act 22 ซึ่งภายหลังถูกรวมเป็น Act 60 ซึ่งให้สิทธิประโยชน์ด้านภาษีอย่างมาก
นักลงทุนระดับตำนานอย่าง Dan Morehead จาก Pantera Capital, นักลงทุน VC อย่าง Brock Pierce และอินฟลูเอนเซอร์ Logan Paul ต่างก็เคยย้ายไปที่นั่น เพื่อใช้สิทธิประโยชน์ดังกล่าว
สำนักงานของ Nydia Velázquez คาดการณ์ว่า จากปี 2020 ถึง ปี 2026 รัฐบาลเปอร์โตริโกอาจสูญเสียรายได้ จากภาษีที่ควรจัดเก็บไปราว 4.5 พันล้านดอลลาร์ จากสิทธิพิเศษพวกนี้
ขณะที่ผู้ว่าการเปอร์โตริโก Jenniffer González-Colón เสนอให้ขยายอายุของกฎหมาย Act 60 จากปี 2035 ออกไปถึงปี 2055 แต่ผู้สมัครใหม่ต้องจ่าย ภาษีกำไรจากการขายสินทรัพย์ (Capital Gains Tax) ในอัตรา 4% ซึ่งยังน้อยกว่า อัตราภาษีปกติของสหรัฐฯ ที่อาจสูงถึง 37%
อย่างไรก็ตาม ยังไม่ชัดเจนว่าร่างกฎหมายของ ส.ส. Nydia Velázquez พรรคเดโมแครต จะได้รับเสียงสนับสนุนเพียงพอในสภาผู้แทนฯ และวุฒิสภาที่ตอนนี้ถูกควบคุมโดยพรรครีพับลิกัน ได้หรือไม่
โดยในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า สภาคองเกรสทั้งสองฝ่ายก็กำลังพิจารณาร่างกฎหมายสำคัญเกี่ยวกับ Stablecoin และกรอบกำกับดูแลคริปโท อยู่เช่นกัน
ที่มา : cointelegraph