Jamie Dimon CEO ของ JPMorgan ออกโรงเตือนนักลงทุนทั่วโลกว่า หากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังไม่กลับมา “เข้าที่เข้าทาง” โดยเร็วเราอาจทำให้นักลงทุนสูญเสียความเชื่อมั่นในดอลลาร์ และนำไปสู่ความปั่นป่วนครั้งใหม่ในตลาดพันธบัตรสหรัฐฯ
ในบทสัมภาษณ์ล่าสุดกับ FOX Business เขาได้ชี้ว่าหนึ่งในปัญหาใหญ่ที่สุดของเศรษฐกิจสหรัฐฯ คือ ตัวเลขหนี้สาธารณะที่พุ่งไม่หยุด ซึ่งขณะนี้แตะระดับที่ “อันตรายอย่างแท้จริง”
“เรื่องหนี้ระดับนี้ ไม่ใช่เรื่องเล็กเลยนะ มันเป็นปัญหาที่แท้จริง และผมเชื่อว่าวันหนึ่ง ตลาดพันธบัตรจะแบกรับมันไม่ไหว… ไม่รู้ว่าจะอีก 6 เดือนหรือ 6 ปี แต่มันจะเกิดขึ้นแน่ ๆ”
Dimon เน้นว่าทางออกไม่ใช่แค่เรื่องของ “การตัดงบประมาณ” แต่ควรเน้นการฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน ผ่านมาตรการทางธุรกิจ เช่น การปฏิรูประบบการอนุญาต, การกำจัดความยุ่งยากของระบบราชการ รวมถึงการเพิ่มทักษะที่จำเป็นในโรงเรียน เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจและนั่นแหละคือทางที่ดีที่สุด”
“เราสามารถปฏิรูปโดยไม่ต้องตัดสิทธิ์ของคนจนหรือคนแก่เลย เพียงแค่ใส่กฎเกณฑ์ที่ลดการโกง, การใช้จ่ายเกินจริง และเพิ่มประสิทธิภาพ เท่านั้นเอง”
นักลงทุนต่างชาติครองสินทรัพย์อเมริกันกว่า 60 ล้านล้านดอลลาร์ ถ้าหวั่นใจก็อาจ “หนีจากเงินดอลลาร์” ได้ทุกเมื่อ
Dimon ย้ำว่า ตลาดพันธบัตรไม่ได้ถูกควบคุมโดยธนาคารกลางเพียงฝ่ายเดียว เพราะอัตราผลตอบแทนขึ้นอยู่กับ “ความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั่วโลก” ซึ่งครอบครองตราสารหนี้ของสหรัฐฯ มูลค่ากว่า 30 ล้านล้านดอลลาร์ และยังมีการลงทุนส่วนตัวอีกกว่า 30 ล้านล้านดอลลาร์ในสหรัฐฯ
“ถ้านักลงทุนมองว่า ‘ดอลลาร์ไม่ใช่ที่ปลอดภัยอีกต่อไป’ เราอาจเห็น credit spread พุ่งรุนแรง เหมือนที่เคยเกิดตอน COVID… และมันจะเกิดขึ้นอีกครั้งแน่ ๆ ผมรับรองได้แค่ผมไม่รู้ว่าเมื่อไหร่หรือเพราะอะไรเท่านั้นเอง”
Dimon ยังเตือนว่าถ้าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังปล่อยให้เข้าสู่ภาวะเสี่ยงเรื้อรัง นักลงทุนอาจเริ่ม “เทขาย” สินทรัพย์สหรัฐฯ และมองหาทางเลือกอื่น ๆ เช่น ทองคำ, หุ้นนอกสหรัฐฯ หรือแม้แต่ “ คริปโต” ที่มีอิสระจากระบบการเงินดั้งเดิมมากกว่า
ที่มา : DailyHodl

