<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

CEO CryptoQuant ออกมาขอโทษ! “ทฤษฎีวัฏจักร Bitcoin” ใช้ไม่ได้ผล ยอมรับทำนายราคาพลาด 

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

Ki Young Ju ผู้ก่อตั้ง CryptoQuant ออกมาโพสต์ข้อความลงบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย X ยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่า “ทฤษฎีวัฏจักรของ Bitcoin แบบดั้งเดิม” นั้น หมดความหมายไปแล้ว พร้อมกล่าวขอโทษต่อสาธารณชน จากการคาดการณ์ของตนที่ผิดพลาด เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งได้คาดการณ์ว่า ตลาดกระทิงของ Bitcoin จบลงแล้ว ซึ่งการทำนายครั้งนั้น ทำให้ผู้ติดตามของเขาพลาดโอกาสทำกำไรสูงถึง 54%

Ki Young Ju เคยประเมินว่า Bitcoin จะเข้าสู่ตลาดหมี เมื่อราคาซื้อขายอยู่ที่ราว 80,000 ดอลลาร์ โดยให้เหตุผลว่า แม้แต่นักลงทุนสถาบันรายใหญ่ก็ไม่สามารถดันราคา Bitcoin ให้สูงขึ้นได้ เพราะมีแรงขายที่มากเกินไป ซึ่ง Ki Young Ju เชื่อว่า Bitcoin ไม่น่าจะฟื้นตัวได้ในระยะสั้น

แต่ในความเป็นจริง ราคา Bitcoin กลับพุ่งขึ้นแตะ 112,000 ดอลลาร์ ในเดือนพฤษภาคม และสร้างจุดสูงสุดใหม่ที่ $123,236 ในเดือนกรกฎาคม ทำให้ผู้ติดตามที่เชื่อคำแนะนำของเขา ต้องพลาดขาขึ้นรอบใหญ่ไปอย่างน่าเสียดาย

Ki Young Ju ได้ออกมากล่าวขอโทษอย่างตรงไปตรงมาว่า “ผมขออภัยด้วยใจจริง หากการคาดการณ์ของผมส่งผลกระทบต่อการลงทุนของคุณ ผมจะระมัดระวังมากขึ้น และจะมุ่งเน้นการวิเคราะห์ที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลเป็นหลัก” พร้อมยอมรับว่า กรอบการวิเคราะห์ของตน ไม่สามารถจับความเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของตลาดในปัจจุบันได้

Ki Young Ju อธิบายว่า วัฏจักรตลาดในอดีตที่ผ่านมา มักเกิดจากการที่ “เจ้ามือ” สะสมเหรียญในช่วงตลาดหมี แล้วขายออกในตลาดกระทิงให้กับนักลงทุนรายย่อย 

แต่ปัจจุบัน  Ki Young Ju พบว่า ผู้ถือ Bitcoin รายใหญ่รายเดิม เริ่มขายเหรียญให้กับ “เจ้ามือระยะยาว” เช่น บริษัทที่ถือ Bitcoin ไว้เป็นสินทรัพย์ในคลังขององค์กร ทำให้โครงสร้างของตลาดเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก โดยเฉพาะในยุคที่ผู้ถือเหรียญระยะยาวมีจำนวนมากกว่าผู้ที่ซื้อขายรายวัน ซึ่งทำให้ “การเทรดดูไร้ความหมายไปเลย”

การออกมายอมรับของ  Ki Young Ju ได้จุดกระแส ให้เกิดการถกเถียงในวงการคริปโตอีกครั้งว่า วัฏจักรของ Bitcoin ยังมีอยู่จริงหรือไม่ 

ขณะที่นักวิเคราะห์อย่าง Jurrien Timmer จาก Fidelity ยังเชื่อว่า Bitcoin ยังคงเคลื่อนไหวตามวัฏจักร 4 ปีเช่นเดิม 

สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่า ชุมชนนักวิเคราะห์ยังคงมีความเห็นแบ่งออกเป็นสองฝ่ายอย่างชัดเจน ระหว่างกลุ่มที่เชื่อว่า “สถาบันเปลี่ยนเกมไปแล้ว” กับอีกกลุ่มที่ยังคงยึดมั่นในแนวโน้มวัฏจักรแบบเดิมของตลาด

ที่มา : cointrackdaily