รัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ เดินหน้านำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มาใช้ในภาครัฐอย่างจริงจัง ด้วยการประกาศความร่วมมือกับ OpenAI ในการเปิดให้หน่วยงานรัฐบาลกลางของสหรัฐฯ ทุกแห่งสามารถเข้าถึงระบบ ChatGPT Enterprise ได้ ในราคาสัญลักษณ์เพียง $1 ต่อหน่วยงาน ความร่วมมือนี้ได้รับการเปิดเผยโดยสำนักงานบริการทั่วไปของรัฐบาลกลาง (GSA) ซึ่งระบุว่าเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ OneGov ที่มุ่งเน้นการยกระดับระบบจัดซื้อจัดจ้างและการดำเนินงานของรัฐบาลกลางภายใต้แผน AI Action Plan ของประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งถูกประกาศใช้อย่างเป็นทางการเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
การนำ ChatGPT มาใช้งานในหน่วยงานรัฐครั้งนี้ ไม่ใช่เพียงเพื่อสร้างความสะดวก แต่เป็นการออกแบบให้สอดคล้องกับข้อกำหนดด้านกฎหมาย ความปลอดภัย และนโยบายสาธารณะ โดยผู้บริหารของ GSA ยืนยันว่า AI จะไม่ได้ทำงานแบบ “อัตโนมัติเต็มรูปแบบ” แต่จะเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดขั้นตอนซ้ำซ้อน และจัดการความเสี่ยงด้านการทุจริตและความสูญเปล่าในภาครัฐได้ดียิ่งขึ้น
ระบบ ChatGPT Enterprise จะสนับสนุนภารกิจของหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งด้านการจัดการข้อมูล การสรุปรายงาน การเขียนเนื้อหา การวิเคราะห์ข้อมูล ไปจนถึงการเสนอแนวคิดใหม่ ๆ สำหรับโครงการภาครัฐ โดยจะมีระบบฝึกอบรมและการใช้งานเฉพาะทางที่พัฒนาให้เหมาะสมกับเจ้าหน้าที่แต่ละหน่วยงาน ทั้งในรูปแบบการเรียนรู้ด้วยตนเองและผ่านผู้ฝึกสอน
Sam Altman ซีอีโอของ OpenAI ระบุว่า หนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการทำให้ AI เป็นประโยชน์กับทุกคน คือการวางไว้ในมือของผู้ที่ทำงานเพื่อประเทศ พร้อมย้ำว่าความร่วมมือครั้งนี้เป็นการนำเทคโนโลยีระดับแนวหน้ามาสู่ภาครัฐอย่างเท่าเทียม ขณะที่ Joseph Larson ผู้บริหารอีกคนของ OpenAI เปิดเผยว่า ปัจจุบัน ChatGPT มีผู้ใช้งานรายสัปดาห์กว่า 700 ล้านคน และจุดมุ่งหมายของข้อตกลงนี้คือการลดช่องว่างระหว่างภาครัฐและเอกชนในด้านความสามารถของเครื่องมือ AI
การใช้งาน ChatGPT ในภาครัฐถือเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายสามแกนหลักของ AI Action Plan ซึ่งเน้นการสนับสนุนแรงงานอเมริกัน การปกป้องเสรีภาพในการแสดงออก และการป้องกันการถูกขโมยเทคโนโลยีจากฝ่ายตรงข้าม โดย David Sacks ผู้ดำรงตำแหน่ง “AI and Crypto Czar” ของรัฐบาลทรัมป์ ย้ำว่า AI ต้องไม่มีอคติทางอุดมการณ์ และต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อสร้างความไว้วางใจให้กับประชาชน
ขณะเดียวกัน รัฐบาลทรัมป์ยังได้ร่วมมือกับ Oracle และ OpenAI ในโครงการ Stargate เพื่อสร้างดาต้าเซ็นเตอร์ขนาดใหญ่ในสหรัฐฯ เพิ่มอีก 4.5 กิกะวัตต์ ซึ่งคาดว่าจะสร้างงานมากกว่า 100,000 ตำแหน่ง ครอบคลุมทั้งงานก่อสร้าง การผลิต และบริการสนับสนุนในระดับท้องถิ่น ความเคลื่อนไหวนี้ตอกย้ำว่า สหรัฐฯ ภายใต้การนำของทรัมป์ ไม่เพียงต้องการเป็นผู้นำด้าน AI แต่ตั้งใจจะเป็นผู้นำที่ทิ้งคู่แข่งไว้ข้างหลัง พร้อมขับเคลื่อนระบบราชการให้ก้าวทันเทคโนโลยีแห่งอนาคตอย่างแท้จริง
ที่มา: foxnews