<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

[รายงานพิเศษ] Bitcoin Reserve ของสหรัฐฯ จะเกิดเมื่อไหร่ ? เผยมุมมอง Samson Mow ในงาน WebX 2025 โตเกียว

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2568 ทีมงาน Siam Blockchain ได้เข้าร่วมงาน WebX 2025 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เป็นวันที่สองในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความคาดหวังและความตื่นเต้น เพื่อรับฟังข้อมูลเชิงลึกจากแนวหน้าวงการคริปโตเคอร์เรนซีระดับโลกเช่น Samson Mow ซีอีโอของ JAN3

ภายในงาน Samson Mow ได้ขึ้นเวทีร่วมกับ David Zell ผู้ร่วมก่อตั้ง Bitcoin policy Institute เพื่อพูดคุยกันในประเด็นของการตั้ง Strategic Bitcoin Reserve (SBR) ของสหรัฐอเมริกา

Zell กล่าวว่า 99% ของสกุลเงินที่มนุษย์คิดค้นขึ้นมาล้วนแล้วแต่เสื่อมมูลค่าทั้งหมด มีเพียงทองคำเท่านั้นที่ยังอยู่รอด นั่นเองจึงทำให้บิตคอยน์ที่ถูกยกย่องว่าเป็นทองคำดิจิทัลเป็นที่หมายปองเพื่อรักษาความมั่งคั่งไว้

สำหรับฝั่งของสหรัฐฯ การตั้ง Bitcoin reserve นอกจากจะเป็นการรักษาความมั่งคั่งแล้วยังเป็นการแข่งกับมหาอำนาจประเทศอื่น เช่น จีน หรือ รัสเซีย ที่หันไปกักตุนทองคำแทน ซึ่งถ้าสหรัฐฯสามารถผลักดันบิตคอยน์ได้เหมือนการใช้อินเทอร์เน็ต พวกเขาก็จะชนะในศึกนี้

Mow ระบุว่ากระแสการตั้ง Bitcoin reserve จะเป็นที่ซึ่งที่เกิดขึ้นอย่างแน่นอนไม่ต้องสงสัย ทำให้คำถามตอนนี้คือ มันจะเกิดขึ้นเมื่อไรเท่านั้น เพราะตอนนี้ประเทศอื่น ๆ อย่างปากีสถาน หรือ ฟิลิปปินส์ เองก็เริ่มมีการนำร่องแล้ว ขาดแต่เพียงความเคลื่อนไหวของพี่ใหญ่อย่างสหรัฐฯ

เขากล่าวต่อว่า กระแส Bitcoin ในสหรัฐฯ จะเริ่มเคลื่อนไหวอย่างจริงจังก็ต่อเมื่อกฎหมาย Bitcoin ACT ของ Cynthia Lummis ผ่าน แต่ทั้งนี้สหรัฐฯ ก็มีตัวเลือกไม่กี่ทางเท่านั้นในการตั้ง Bitcoin reserve

ทางเลือกแรกคือ การไม่ซื้อบิตคอยน์เพิ่มและทำการเก็บรวมรวมจากทุกหน่วยงานมาไว้ที่แห่งเดียวจากนั้นก็ล็อคเหรียญเอาไว้เฉยๆ ส่วนทางเลือกที่สองคือ การหาทางทำซื้อเพิ่มโดยไม่กระทบเงินภาษี ซึ่งอาจจะเป็นการขายคริปโตสกุลอื่นที่ยึดมาแล้วเอาไปลงทุนใน Bitcoin ก็เป็นอีกวิธีที่มีความเป็นไปได้

ไม่ว่าสหรัฐฯ จะเลือกทางไหนประเทศอื่น ๆ ก็มีแนวโน้มที่จะทำตามเช่นกัน ซึ่งก็เป็นเรื่องที่น่าตลกมาว่าไม่ว่าใครก็อยากได้บิตคอยน์มาครอบครอง แต่กลับไม่มีใครอยากใช้เงินในการทุ่มซื้อมัน

นอกเหนือจากนี้ การที่สหรัฐฯ จะตั้ง Bitcoin reserve ยังมีปัญหาเรื่องแหล่งที่มาอีกต่างหาก เพราะมันคงเป็นเรื่องไม่เหมาะสมหากทุนสำรองของประเทศมาจากเงินสีเทา ทำให้ไม่มีความเป็นไปได้เลยที่สหรัฐฯ จะแอบซื้อ Bitcoin เงียบ ๆ เหมือนที่เคยมีข่าวลือ ซ้ำร้าย Bitcoin ที่สหรัฐฯถือในขณะนี้ส่วนมากยังเป็นของ Bitfinex ทำให้ตัวเลขจริงอาจน้อยกว่าที่คาด ซึ่งทางรัฐบาลก็ยังไม่มีความชัดเจนในการประกาศตัวเลขแท้จริงออกมา

สุดท้ายนี้ พวกเขากล่าวว่าหนทางของการตั้ง Bitcoin reserve ในสหรัฐฯ ยังอีกห่างไกลเพราะตอนนี้มีคนในสภาเพียง 6% เท่านั้นที่สนับสนุนแผนการนี้ และอาจต้องใช้เวลาอีกหลายปีกว่าแผนการจะลุล่วง