ราคา Bitcoin ($BTC) เผชิญกับแรงเทขายอย่างหนักอีกครั้ง โดยดิ่งลงไปซื้อขายต่ำกว่าระดับ $110,000 ต่อเหรียญ ในวันนี้ (16 ตุลาคม 2025) ซึ่งเป็นผลพวงจากความผันผวนรุนแรงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในตลาดคริปโต และความกังวลต่อปัจจัยมหภาค
การปรับตัวลงครั้งนี้เกิดขึ้นต่อเนื่องจากเหตุการณ์ Flash Crash ครั้งใหญ่เมื่อไม่กี่วันก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการที่สหรัฐฯ-จีน กลับมาตึงเครียดเรื่องสงครามการค้า โดยราคา Bitcoin เคยดิ่งจากระดับสูงสุดที่ $122,500 ลงไปต่ำกว่า $104,600 อย่างรวดเร็ว
ตลาดช็อก Liquidation $1.9 หมื่นล้าน คือสาเหตุ
การดิ่งลงของราคาอย่างรวดเร็วในรอบล่าสุดนี้ ไม่ได้เกิดจากปัญหาพื้นฐานของ Bitcoin แต่เกิดจากปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “การชำระบัญชี” (Liquidation Event) ครั้งประวัติศาสตร์:
- การล้างเลเวอเรจ: มีรายงานว่า สถานะ Leverage ในตลาด Futures ถูกบังคับปิดรวมมูลค่าสูงถึงกว่า $19,000 ล้านดอลลาร์ ในช่วงเวลาสั้นๆ โดยเน้นไปที่สถานะ Long Position ซึ่งเป็นการเคลียร์ “ฟองสบู่” เลเวอเรจที่สูงเกินไปออกไปจากระบบ
- สภาวะ Risk-Off: ความตึงเครียดด้านการค้าและสัญญาณจาก Fed ที่ยังไม่ชัดเจน ทำให้ตลาดหันเข้าสู่โหมด “ลดความเสี่ยง” (Risk-Off) นักลงทุนจึงเทขายสินทรัพย์เสี่ยงอย่าง Bitcoin และหันไปหาสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำแทน
สัญญาณฟื้นตัวถูกฉุดรั้ง: นักลงทุนจับตาฐาน $111,700
แม้ว่าการดิ่งลงจะเกิดขึ้นจากปัจจัยทางเทคนิคมากกว่าพื้นฐาน แต่ความผันผวนที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งตอกย้ำให้เห็นถึงความเปราะบางของตลาด:
- ความหวังการรีบาวด์: ก่อนหน้านี้ ข้อมูลเชิงเทคนิคเคยแสดงให้เห็นว่า Bitcoin มีสัญญาณกลับตัวเป็นขาขึ้น (Bullish Reversal) หลังมีการสร้างแนวรับที่แข็งแกร่งบริเวณ $111,700 แต่การที่ราคาตกลงต่ำกว่าระดับนี้อีกครั้ง บ่งชี้ว่าแรงขายยังคงมีอำนาจเหนือตลาด
- สถานะ Digital Gold: ในขณะที่ราคาทองคำยังคงทำสถิติสูงสุดใหม่ Bitcoin ซึ่งถูกขนานนามว่าเป็น “Digital Gold”ยังคงแสดงให้เห็นถึงความผันผวนสูง ทำให้สถานะการเป็นสินทรัพย์หลบภัยยังถูกจำกัดในระยะสั้น
นักวิเคราะห์เตือนว่า ตลาดอาจยังคงอยู่ในภาวะผันผวนสูง จนกว่าความไม่แน่นอนทางการเมืองและเศรษฐกิจโลกจะคลี่คลาย อย่างไรก็ตาม การชำระล้างเลเวอเรจครั้งใหญ่เช่นนี้ มักถูกมองว่าเป็น “การล้างไพ่ที่จำเป็น” ซึ่งอาจสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการฟื้นตัวของตลาดขาขึ้นในระยะถัดไป
ที่มา: @WatcherGuru