ผลสำรวจล่าสุดจาก YouGov ประจำสัปดาห์นี้ เผยให้เห็นว่า คะแนนความนิยมของ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ลดลงต่ำกว่าสมัยที่เขาดำรงตำแหน่งครั้งแรก
โดยข้อมูลระบุว่า คะแนนสุทธิ (Net Approval) ของทรัมป์อยู่ที่ -19% โดยมีผู้ที่พอใจการทำงานของเขาเพียง 38% ขณะที่ 57% ไม่พอใจการทำงานของ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ คนปัจจุบัน
นอกจากนี้ คะแนนการบริหารเศรษฐกิจของทรัมป์ก็ดิ่งลงอย่างหนัก หลังจากที่นโยบายสงครามการค้าสร้างผลกระทบเชิงลบต่อความเชื่อมั่นของสาธารณชน
ซึ่งคะแนนความนิยมของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลดลงอย่างรวดเร็ว เพียงไม่กี่วันหลังจากที่เขาได้ลงนามในกฎหมายเพื่อเปิดทำการรัฐบาลกลางอีกครั้ง สาเหตุมาจากการที่ทรัมป์สั่ง ปิดหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ (Government Shutdown) ยาวนานถึง 43 วัน ซึ่งนับเป็นระยะเวลาการปิดหน่วยงานที่ ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ และส่งผลกระทบโดยตรงให้ แรงงานเอกชนกว่า 60,000 คนต้องตกงาน
ตามรายงานของสภาเศรษฐกิจแห่งชาติสหรัฐฯ ระบุว่า ความสัมพันธ์ระหว่างทรัมป์กับอุตสาหกรรมคริปโต ที่เขามักประกาศเจตนารมณ์ให้สหรัฐฯ เป็น “เมืองหลวงแห่ง Crypto ของโลก” ก็ถูกจับตาอย่างหนัก
เนื่องจากวุฒิสมาชิก Elizabeth Warren และ Jack Reed ได้ออกมาเรียกร้องให้กระทรวงการคลัง และกระทรวงยุติธรรมตรวจสอบแพลตฟอร์ม World Liberty Financial ที่เชื่อมโยงกับครอบครัวทรัมป์
นอกจากนี้ สำนักข่าว CNBC ยังได้รายงาน โดยอ้างอิงข้อมูลจาก Accountable.US ซึ่งเป็นองค์กรตรวจสอบที่ไม่แสวงหาผลกำไร ที่เปิดเผยรายงานตั้งแต่เดือนกันยายน 2568 ว่า บริษัทคริปโตของตระกูลทรัมป์ได้ขายโทเคนให้กับผู้ซื้อที่น่าสงสัยหลายสิบราย ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับแพลตฟอร์มฟอกเงินขนาดใหญ่, ตลาดแลกเปลี่ยนคริปโตของอิหร่าน, และแม้กระทั่งแฮกเกอร์ชาวเกาหลีเหนือ
โดยรายงานของ Accountable.US ได้ตั้งคำถามอย่างตรงไปตรงมาว่า “ทำไมธุรกิจคริปโตของครอบครัวทรัมป์ถึงรับเงินจากคนที่มีความเกี่ยวพัน กับศัตรูของสหรัฐฯ อย่างเปิดเผย?”
ที่มา : cryptonews