<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

เกาหลีใต้ขีดเส้นตาย เตรียมดันร่างกฎหมาย Stablecoin ให้แล้วเสร็จก่อน 10 ธันวาคมนี้

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งประเทศเกาหลีใต้ ได้ตั้งเดดไลน์สหรับร่างกฎหมายการกำกับดูแล Stablecoin พร้อมกล่าวว่า หากถึงเส้นตายแล้วร่างกฎหมายยังไม่พร้อมพวกเขาจะเริ่มพิจารณาออกกฎหมายด้วยตนเอง

อ้างอิงข้อมูลจากสื่อท้องถิ่นหนังสือพิมพ์ Maeil Business รายงานว่า พรรครัฐบาลของเกาหลีใต้ได้ส่ง ‘หมายแจ้งเตือนในนาทีสุดท้าย’ ไปยังหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงิน เพื่อให้ส่งมอบร่างกรอบการกำกับดูแล Stablecoin ภายในวันที่ 10 ธันวาคม

คัง จุน-ฮยอน สมาชิกสภานิติบัญญัติจากพรรคประชาธิปไตย กล่าวว่า ‘หากร่างกฎหมายของรัฐบาลไม่ถูกส่งมาภายในกำหนดเส้นตายนี้ พวกเขาจะดำเนินการผลักดันกฎหมายผ่านเลขาธิการคณะกรรมการกิจการการเมือง ทว่า หากร่างกฎหมายถูกส่งมอบทันเวลา เขาคาดว่าร่างกฎหมายดังกล่าวจะได้รับการพิจารณาในการประชุมวิสามัญของรัฐสภาแห่งชาติในเดือนมกราคม 2026

ทั้งนี้ คณะกรรมการบริการทางการเงิน (FSC) ได้ออกแถลงการณ์ในภายหลัง โดยระบุว่า ยังไม่มีการสรุปการตัดสินใจเกี่ยวกับการจัดตั้งกลุ่มความร่วมมือสำหรับการออก Stablecoin สกุลเงินวอนเกาหลี 

ทางหน่วยงานกำกับดูแลยืนยันว่า ได้มีการหารือเรื่องกฎระเบียบ Stablecoin เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ในระหว่างการประชุมหารือระหว่างพรรครัฐบาลและรัฐบาล และทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะเตรียมร่างกฎหมายของรัฐบาลให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

อย่างไรก็ตาม FSC ระบุว่า ปัจจุบันยังไม่มีข้อสรุปที่เป็นรูปธรรมในประเด็นต่างๆ รวมถึงเรื่องการอนุญาตให้ธนาคารเข้าถือหุ้นเกิน 51% ในกลุ่มพันธมิตร 

ประเด็นดังกล่าวสืบเนื่องมาจากความเห็นที่แตกต่างกันระหว่างธนาคารกลางเกาหลี (BOK) และหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินอื่นๆ เกี่ยวกับบทบาทของธนาคารในการออก Stablecoin สกุลเงินวอน โดยฝั่ง BOK ต้องการให้ธนาคารถือหุ้นใหญ่อย่างน้อย 51% ในนิติบุคคลที่จะได้รับใบอนุญาต ในขณะที่หน่วยงานกำกับดูแลต้องการเห็นระบบนิเวศที่มีความหลากหลายมากกว่านั้น

ทาง BOK ให้เหตุผลว่า ธนาคารพาณิชย์มีความเชี่ยวชาญด้านมาตรการป้องกันการฟอกเงิน (AML) อยู่แล้ว จึงเหมาะสมที่จะเป็นผู้ออก Stablecoin ทว่า ซังมิน ซอ ประธาน Kaia DLT Foundation กลับมองว่าเหตุผลของธนาคารกลางนั้น “ขาดน้ำหนักทางตรรกะ” โดยเขาแย้งว่าทางออกที่ดีกว่าควรกำหนดหลักเกณฑ์คุณสมบัติของผู้มีสิทธิ์ออกเหรียญให้ชัดเจน แทนที่จะไปบังคับเรื่องสัดส่วนการถือหุ้นของธนาคาร

ที่มา : Cointelegraph