Perpetual Futures หรือ “สัญญาฟิวเจอร์สแบบไม่มีวันหมดอายุ” คือ เครื่องมือยอดนิยมในตลาดคริปโต เพราะเปิดโอกาสให้เก็งกำไรราคาได้ทั้งขาขึ้น–ขาลง ใช้เงินตั้งต้นไม่มากแต่ควบคุมมูลค่าสัญญาได้สูงผ่าน Leverage และเทรดได้ตลอด 24 ชั่วโมง ฟังดูเหมือนทางลัดทำกำไร แต่ในความเป็นจริง เครื่องมือนี้ซ่อนรายละเอียดสำคัญที่มือใหม่จำนวนมากมองข้าม และความเข้าใจผิดเพียงเล็กน้อย อาจทำให้พอร์ตหายได้แบบไม่ทันตั้งตัว
1.ไม่มีวันหมดอายุ เท่ากับถือยาวได้ โดยไม่ต้องเสียอะไร
มือใหม่หลายคนคิดว่า เมื่อสัญญา “ไม่มีวันหมดอายุ” ก็แปลว่า สามารถถือไปเรื่อย ๆ โดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น ความจริงคือ ระบบจะคำนวณกำไร–ขาดทุนและปรับยอดเงินในพอร์ตตลอดเวลา ผ่านกลไก Funding Rate หรืออัตราค่าธรรมเนียมการถือครองโพซิชัน และ Margin checks การตรวจสอบหลักประกันที่เกิดขึ้นหลังบ้าน
ยอดเงินของคุณจะถูกปรับเปลี่ยนตลอดเวลาตามสภาวะตลาด แม้ว่าคุณจะยังไม่ได้ปิดโพซิชันการเทรดก็ตาม หากคุณวางแผนจะถือโพซิชันข้ามวันหรือเป็นสัปดาห์ อย่าลืมคำนวณค่า Funding Rate ที่จะค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงผลลัพธ์กำไรขาดทุนของคุณได้ แม้ว่าราคาเหรียญจะแทบไม่ขยับเลยก็ตาม
2. Funding Rate เป็นแค่ค่าธรรมเนียมเล็กน้อย
Funding Rate มักถูกมองข้ามว่า เป็นเพียงต้นทุนเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ไม่ได้สำคัญอะไร แนวคิดนี้ถือว่า “อันตรายมาก” เพราะ Funding Rate มีไว้เพื่อรักษาราคาของสัญญา Perpetual Futures ให้ใกล้เคียงกับราคาในตลาด Spot ซึ่งมันสามารถส่งผลดีหรือผลเสียต่อคุณก็ได้
บางครั้งคุณต้องจ่ายค่า Funding และบางครั้งคุณก็เป็นฝ่ายได้รับ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าตลาดกำลังเป็นขาขึ้น หรือขาลง ในระยะสั้นผลกระทบอาจดูน้อยนิด แต่ในระยะยาว มันสามารถส่งผลต่อความสามารถในการทำกำไรของคุณได้เลยทีเดียว
3. ยิ่ง Leverage สูง ยิ่งกำไรเยอะ
Leverage เป็นเครื่องมือที่น่าดึงดูดที่สุดของ Perpetual Futures แต่ก็เป็นจุดที่ทำให้เทรดเดอร์จำนวนมาก “หมดตัว” ได้เช่นกัน ตรรกะอาจฟังดูเรียบง่ายว่า “เลเวอเรจเยอะ เท่ากับ กำไรก้อนเยอะ” แต่สิ่งที่หลายคนมองข้ามคือ การขาดทุนก็จะเยอะตามไปด้วย การขยับของราคาเพียงเล็กน้อยที่สวนทางกับโพซิชันที่ใช้ Leverage สูง สามารถล้างพอร์ตคุณให้หายวับได้ภายในไม่นาที
เครื่องมือตัวนี้ไม่ใช่สูตรโกงการลงทุน แต่มันคือดาบสองคมที่จะช่วยขยายทั้งโอกาสในการทำกำไรและขาดทุนพร้อมๆ กัน ดังนั้น นักเทรดคริปโตควรใช้ Leverage อย่างระมัดระวัง
4. การล้างพอร์ต (Liquidation) จะเกิดเฉพาะตอนตลาดเหวี่ยงแรงเท่านั้น
มือใหม่หลายคนคิดว่า การล้างพอร์ตจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อตลาดมีการถล่มลงมา หรือราคพุ่งขึ้นอย่างบ้าคลั่ง ในความเป็นจริง การล้างพอร์ตสามารถเกิดขึ้นได้แม้ในช่วงที่ราคาขยับตัวตามปกติ หากคุณใช้ Leverage ที่สูงเกินไป
ปัจจัยแวดล้อมอย่าง “หลักประกันขั้นต่ำ” (Maintenance Margin) และ “ราคาอ้างอิง” (Mark Price) มีบทบาทสำคัญในเรื่องนี้ แม้ราคาจะย่อตัวลงเพียงเล็กน้อย ก็อาจกระตุ้นให้เกิดการล้างพอร์ตได้หากมีเงิน Margin ไม่เพียงพอ
ดังนั้นเพื่อป้องกันการถูกล้างพอร์ตให้สังเกตุที่ Liquidation Price หรือจุดที่พอราคาไปถึง แล้วคุณจะถูกล้างพอร์ตทุกครั้ง เพื่อใช้คำนวณการวาง Margin ให้สอดคล้องกับแผนการลงทุน
5. ราคา Perpetual Futures วิ่งเท่ากับราคา Spot เป๊ะ ๆ
อย่าเพิ่งคิดไปเองว่า ราคา Perpetual Futures จะตรงกับราคา Spot เสมอ โดยส่วนใหญ่แล้วราคามักจะเกาะกลุ่มกัน แต่ “ไม่เหมือนกันเป๊ะๆ” ปัจจัยต่าง ๆ เช่น อารมณ์ของตลาด, Funding Rate, และโพซิชันของเทรดเดอร์ สามารถผลักดันให้ราคาเกิดส่วนต่างที่เป็นบวก หรือลบได้
ความแตกต่างนี้เรียกว่า “Basis” และมันส่งผลกระทบต่อจังหวะที่คุณเข้าหรือออกจากการเทรด อย่าลืมให้ความสนใจกับส่วนต่างราคาระหว่างตลาด Spot และตลาด Perpetual เมื่อคุณวางแผนจุดเข้า จุดออก และการคำนวณกำไรทุกครั้ง
6. Perpetual Futures มีไว้สำหรับเซียนเทรดเท่านั้น
Perpetual Futures มักถูกแปะป้ายว่าเป็นเครื่องมือสำหรับ “มือโปร” เท่านั้นแนวความคิดนี้ทำให้มือใหม่บางคนกลัวจนไม่อยากเข้าไปยุ่ง และทำให้บางคนเกิดความมั่นใจผิดๆ เมื่อพวกเขาคิดว่าตัวเองอยู่ในตลาดฟิวเจอร์ส
ความจริงก็คือ สัญญาเหล่านี้ไม่ได้มีอันตรายถึงขั้นห้ามยุ่ง หรือสงวนไว้สำหรับผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น ความเสี่ยงที่แท้จริงเกิดจากการเทรดโดยไม่เข้าใจว่า Funding, Leverage และ Liquidation ทำงานร่วมกันอย่างไรต่างหาก
ดังนั้นการศึกษาหาความรู้, การกำหนดขนาดในแต่ละไม้, และวินัยเป็นสิ่งที่สำคัญกว่าระดับประสบการณ์มาก เมื่อคุณอยู่ในตลาด Perpetual Futures
ทำไมการเข้าใจกลไกการทำงานถึงสำคัญ
Perpetual Futures ถือเครื่องมือที่ทรงพลัง แต่จะเป็นเช่นนั้นได้ ก็ต่อเมื่อคุณเข้าใจหลักการทำงานของมัน เมื่อลบล้างความเชื่อผิด ๆ ออกไป สัญญาเหล่านี้จะดูน่ากลัวน้อยลง และจัดการได้ง่ายขึ้นมาก
การเข้าใจเรื่อง Funding Rate, Leverage และ Liquidation จะช่วยให้นักเทรดตัดสินใจบนพื้นฐานของเหตุผล ไม่ใช่อารมณ์ และหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดที่อาจสูบเงินออกจากบัญชีไปจนหมดได้
ที่มา:TheShib

