(30 ธ.ค. 2025) – หุ้นขวัญใจสายคริปโทฯ อย่าง MicroStrategy ($MSTR) กำลังตกเป็นเป้าวิจารณ์อย่างหนักส่งท้ายปี เมื่อนักวิเคราะห์ชื่อดัง Caleb Franzen ได้ออกมาทวีตข้อความเชิงตั้งคำถามถึงความคุ้มค่าในการถือครองหุ้นตัวนี้ โดยชี้ให้เห็นตัวเลขที่น่าตกใจว่า ในการซื้อขายวันนี้ MSTR ปรับตัวขึ้นเพียง +2.2% ซึ่งน้อยกว่ากองทุน BlackRock Bitcoin ETF ($IBIT) ที่ปรับตัวขึ้น +2.5% สถานการณ์นี้ทำให้เขาถึงกับเอ่ยปากว่า “มันน่าขำสิ้นดี” ที่หุ้นซึ่งเคยถูกมองว่าเป็นเสมือน Bitcoin Leveraged กลับทำผลงานได้แย่กว่าการถือ ETF ตรงๆ
ประเด็นสำคัญที่ถูกยกขึ้นมาถกเถียงคือ “จุดคุ้มทุน” ของการถือ MSTR ในสภาวะตลาดปัจจุบัน เพราะโดยปกติแล้วนักลงทุนยอมรับความผันผวน (Volatility) และความเสี่ยงจากการลดสัดส่วนผู้ถือหุ้น (Dilution Risk) ที่เกิดจากการออกหุ้นเพิ่มทุนเพื่อระดมเงินไปซื้อ Bitcoin เพื่อแลกกับผลตอบแทนที่ควรจะชนะตลาด (Alpha) แต่เมื่อหุ้นกลับให้ผลตอบแทนที่ต่ำกว่าสินทรัพย์อ้างอิงอย่าง Bitcoin เสียเอง คำถามสำคัญจึงเกิดขึ้นว่า “แล้วเราจะถือ MSTR ไปเพื่ออะไร?” ในเมื่อ ETF ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าในความเสี่ยงที่ต่ำกว่ามาก
ข้อมูลย้อนหลังยิ่งตอกย้ำความเจ็บปวดของนักลงทุน MSTR ในปีนี้ โดยรายงานระบุว่าผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี (YTD) ของ MSTR ดิ่งลงถึง 48% ในขณะที่กองทุน IBIT ปรับตัวลดลงเพียง 10% เท่านั้น ช่องว่างที่ห่างกันมหาศาลนี้สะท้อนให้เห็นว่า กลยุทธ์การกู้เงินมาซื้อ Bitcoin (Leverage Strategy) ของบริษัท อาจกลายเป็นดาบสองคมที่ย้อนกลับมาทำร้ายผู้ถือหุ้นในยามที่ตลาดไม่ได้เป็นขาขึ้นอย่างรุนแรง ต่างจากกองทุน ETF ที่มีค่าธรรมเนียมต่ำเพียง 0.25% และสะท้อนราคา Spot Price ได้แม่นยำกว่า
อย่างไรก็ตาม เสียงในตลาดเริ่มแตกออกเป็นสองฝ่าย ฝั่งผู้สนับสนุนยังคงเชื่อมั่นใน MSTR ว่าเป็นเครื่องมือเก็งกำไรชั้นยอดที่จะทำกำไรได้มหาศาลหากตลาดกระทิงรอบใหญ่กลับมา (Outsized Gains) แต่ในขณะเดียวกัน ฝั่งผู้กังวลเริ่มมองหาทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า โดยมองว่าในสภาวะตลาดที่ผันผวนและไม่ชัดเจน การถือ ETF อย่าง IBIT เป็นทางเลือกที่ “ฉลาดกว่า” เพราะไม่ต้องแบกรับความเสี่ยงจากการบริหารงานหรือนโยบายการเงินของบริษัท
ที่มา: @CalebFranzen

