นาย Patrick Harker ผู้อำนวยการธนาคารกลางสหรัฐของฟิลาเดลเฟียกล่าวว่า “มันเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้” สำหรับธนาคารกลาง รวมไปถึง ธนาคารกลางสหรัฐฯ (U.S. Federal Reserve) ในความจำเป็นที่จะต้องออกสกุลเงินดิจิทัลเป็นของตัวเอง
ในการประชุมธนาคารที่เซนต์หลุยส์ นาย Harker ได้เปิดกระเด็นถกเถียงว่า สหรัฐไม่ควรเป็นประเทศแรกในการออกเหรียญคริปโตสำหรับประเทศ เพราะว่าเทคโนโลยียังไม่พร้อมใช้งานในตอนนี้และเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงเป็นสกุลเงินสำรองของโลก อ้างอิงรายงานจากสำนักข่าวรอยเตอร์
“มันเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้…ผมคิดว่าเป็นการดีกว่าถ้าเราจะเริ่มจับมือกันในตอนนี้” เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐกล่าวและตอบคำถามเกี่ยวกับการตัดสินใจของ Fed ที่จะสร้างระบบการชำระเงินแบบเรียลไทม์ที่เรียกว่า FedNow
Harker กล่าวว่า:
“ผมมองว่าห้าปีต่อจากนี้มันจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลล้วน ๆ ”
ความคิดเห็นของนาย Harker มีขึ้นท่ามกลางการถกเถียงกันอย่างดุเดือดทั่วโลกเกี่ยวกับเหรียญคริปโตเคอเรนซี่ที่ออกโดยบริษัทเอกชน โดยพวกเขากลัวว่าสิ่งเหล่านี้จะบ่อนทำลายอำนาจของธนาคารกลางในการนำนโยบายทางการเงินที่มีประสิทธิภาพมาใช้
ในช่วงกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมาผู้บริหารจากธนาคารอเมริกันที่ใหญ่ที่สุดได้ออกมาร้องเรียนต่อธนาคารกลางสหรัฐว่าโปรเจคเหรียญ Libra ของ Facebook จะก่อให้เกิดภัยคุกคามทางการเงินในการประชุมสภาที่ปรึกษา
“ถ้าหากผู้บริโภคยอมรับในเหรียญ Libra, เงินฝากจำนวนมากมีโอกาสที่จะไหลเข้าสู่แพลตฟอร์มดังกล่าว, สภาพคล่องก็อาจลดลงอย่างมีประสิทธิภาพและพวกเขามีแนวโน้มที่จะขยายสินเชื่อและบริการการลงทุนต่อไป” ผู้บริหารกล่าว
ในขณะนี้ประเทศเศรษฐกิจหลายแห่งในโลกกำลังเริ่มวางแผนที่จะใช้สกุลเงินดิจิทัลในประเทศของพวกเขา
นาย Mu Changchun หัวหน้าโปรเจคคริปโตของรัฐบาลจีนกล่าวว่า หนึ่งในเป้าหมายหลักสำหรับการออกเหรียญ stablecoin ของจีนก็คือการยึดเอาฐานลูกค้า Libra ของ Facebook ก่อนที่มันจะมีการเปิดตัว
“ถ้าเรายอมให้ Libra เข้ามาสู่ตลาด เราก็จะเปิดช่องทางเศรษฐกิจใต้ดิน” นาย Mu อธิบาย “มันจะยากสำหรับประเทศจีนในการจัดการกับสกุลเงินของต่างประเทศ” เขากล่าว
นาย Agustin Carstens หัวหน้าธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ (BIS) กล่าวว่าธนาคารกลางจะมีความจำเป็นต้องออกสกุลเงินดิจิทัลของพวกเขาในไม่ช้า
BIS ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะธนาคารกลางเพื่อธนาคารกลางในยุโรปที่สนับสนุนความพยายามของธนาคารกลางทั่วโลกในการวิจัยและพัฒนาสกุลเงินดิจิทัลตามสกุลเงินของประเทศ นาย Carstens กล่าวระหว่างการให้สัมภาษณ์กับทาง Financial Times
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น