ผู้เชี่ยวชาญชี้การพุ่งขึ้นของราคา Bitcoin อาจมีสาเหตุเบื้องหลังมาจากการประชุมของ Fed

ราคา Bitcoin ได้ปิดเหนือจุดสูงสุดตลอดกาลที่ระดับ 20,000 ดอลลาร์ เป็นครั้งแรกในวันพุธที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้ตัดสินใจที่จะรักษาระเบียบวาระการประชุมไว้ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

FED มีอิทธิพลต่อราคา BITCOIN

เราไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่าการที่ราคา Bitcoin พุ่งขึ้นอย่างรุนแรงในช่วงเมื่อวานนี้มีสาเหตุเบื้องหลังมาการประชุมของ Fed โดยราคา Bitcoin นั้นได้พุ่งขึ้นแตะระดับ 20,000 ดอลลาร์ ก่อนที่มี่จะมีการสรุปการประชุม Fed ซึ่งสิ่งนี้ชี้ให้เห็นถึงความคาดหวังของนักเทรดที่คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะขยายวงเงินการเข้าซื้อสินทรัพย์ในตลาด (Asset Purchase Program) พร้อมกับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ปรับลดลงใกล้กับศูนย์ และในที่สุดราคา Bitcoin ก็ได้พุ่งขึ้นแตะระดับ 22,000 ดอลลาร์ทันที หลังจากที่ความคาดหวังของพวกเขากลายเป็นจริง

ในระหว่างแถลงการณ์ประธาน FED นาย Jerome Powell ได้กล่าวสนับสนุนโครงการเข้าซื้อพันธบัตรของรัฐบาล โดยเขาตั้งข้อสังเกตว่าคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) จะยังคงเข้าซื้อหนี้มูลค่า 120,000 ล้านดอลลาร์ต่อไปทุกเดือนจนกว่าจะมีตัวเลขการจ้างงานที่เพิ่มสูงขึ้นและอัตราเงินเฟ้อที่ยั่งยืนมากกว่า 2 เปอร์เซ็นต์

นาย Powell ยังกล่าวต่อไปอีกว่าสำนักงานของเขาจะดำเนินมาตรการเพิ่มเติม รวมถึงการเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบในการซื้อพันธบัตรไปสู่กรอบระยะเวลาที่ยาวนานมากขึ้นหากจำเป็น

การเคลื่อนไหวดังกล่าวค่อนข้างเผยให้เห็นถึงแนวโน้มในระยะสั้นที่ย่ำแย่ของเศรษฐกิจในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณให้นักลงทุนทั้งหมดโยกย้ายเงินทุนของพวกเขาไปเก็บรักษาไว้ในสินทรัพย์ Safe Haven อย่างเช่น Bitcoin

นี่ไม่ใช่ฟองสบู่

เป็นที่น่าสังเกตว่าการเพิ่มขึ้นของราคา Bitcoin ในครั้งนี้ไม่เหมือนกับเหตุการณ์ฟองสบู่ที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2017 เนื่องจากในปีนี้ราคา Bitcoin ได้รับการสนับสนุนจากสถาบันการลงทุนต่าง ๆ มากมายไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มเงินทุนของ Grayscale, Microstrategy และข่าวการมาของยักษ์ใหญ่ด้านการชำระเงิน Paypal อีกทั้งยังมีข่าวของบริษัทด้านการลงทุนชื่อดังในอังกฤษอย่าง Ruffer ที่ได้เปิดเผยการลงทุนใน BTC เป็นมูลค่ากว่า 744 ล้านดอลลาร์ในเงินทุนสำรองของพวกเขาเมื่อช่วงวันพุธที่ผ่านมา 

ข่าวดังกล่าวเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่บ่งชี้ให้เห็นว่า บริษัทยักษ์ใหญ่หรือนักลงทุนรายใหญ่ได้โยกย้ายเงินทุนของพวกเขามาเก็บไว้ใน Bitcoin เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะเงินเฟ้อที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคตข้างหน้า  

แนวโน้มในอนาคตของ Fed ได้ช่วยให้บริษัทต่าง ๆ มีเหตุผลในการตัดสินใจได้ง่ายขึ้น สำหรับการจัดสรรพอร์ตโฟลิโอส่วนหนึ่งให้กับ Bitcoin โดยในระหว่างการสัมภาษณ์ล่าสุดกับสื่อข่าว Bloomberg นาย Scott Minerd ซีอีโอของบริษัทที่ปรึกษาการลงทุน Guggenheim Partners กล่าวว่า ราคา Bitcoin อาจพุ่งแตะ 400,000 ดอลลาร์ได้ หากนักลงทุนเริ่มเรียกร้องให้มันเข้ามาทำหน้าที่แทนทองค่า 

“Bitcoin นั้นมีคุณสมบัติที่เหมือนกับทองคำเป็นอย่างมาก และในขณะเดียวกันมันก็มีมูลค่าในด้านการทำธุรกรรมที่สูงขึ้นอีกด้วย” เขากล่าวในระหว่างให้สัมภาษณ์

ปัจจุบัน Bitcoin มีการซื้อขายกันอยู่ที่ 22,370 ดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็นมูลค่าที่เพิ่มขึ้นกว่า 204 เปอร์เซ็นต์ในปีนี้