<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

แบงก์ชาติไทยเตรียมพัฒนาเหรียญไทยบาทดิจิทัลเพื่อประชาชนภายในปีหน้า

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ในวันนี้ธนาคารแห่งประเทศไทยได้เผยผลการพัฒนาโครงการนำร่องชำระเงินในภาคธุรกิจโดยใช้ “สกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง” ซึ่งสรุปได้ว่าเทคโนโลยีดังกล่าวสามารถเพิ่มประสิทธิภาพ (Efficiency) การชำระเงินให้แก่ภาคธุรกิจได้เป็นอย่างดี พร้อมเผยว่าในปี 2564 – 2565 ธนาคารแห่งประเทศไทยจะมุ่งเน้นการศึกษาและพัฒนาสกุลเงินดิจิทัลสำหรับภาคประชาชน (Retail CBDC) โดย ธปท. จะเผยแพร่รายละเอียดผลการศึกษาสำหรับการออก Retail CBDC ในระยะต่อไป

นางสาววชิรา อารมย์ดี - รวมข่าวเกี่ยวกับ "นางสาววชิรา อารมย์ดี"  เรื่องราวของนางสาววชิรา อารมย์ดี

โดยในระหว่างการให้สัมภาษณ์ นางสาววชิรา อารมย์ดี ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้เปิดเผยถึง ผลการพัฒนาระบบต้นแบบสำหรับการชำระเงินในภาคธุรกิจโดยใช้สกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง (Central Bank Digital Currency: CBDC) ซึ่งเกิดจากความร่วมมือระหว่าง ธปท. เอสซีจี และบริษัทดิจิทัล เวนเจอร์ส จำกัด โดยมีบริษัท ConsenSys เป็นผู้สนับสนุนด้านเทคโนโลยี ซึ่งผลการพัฒนาและทดสอบสรุปได้ว่าเทคโนโลยีดังกล่าวสามารถเพิ่มประสิทธิภาพ (Efficiency) การชำระเงินให้แก่ภาคธุรกิจได้เป็นอย่างดี 

สำหรับโครงการ CBDC ที่ใช้ทดสอบกับภาคธุรกิจนั้น ได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน ปี 2563 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความยืดหยุ่นของการชำระเงินในการรองรับการสร้างนวัตกรรมทางการเงินใหม่ ๆ ให้กับภาคธุรกิจ ทั้งนี้ การพัฒนาระบบต้นแบบดังกล่าวได้ใช้เทคโนโลยีประมวลผลแบบกระจายศูนย์ (Distributed Ledger Technology: DLT) เชื่อมต่อกับระบบบริหารการจัดซื้อ การวางบิล และการชำระเงิน ระหว่างเอสซีจีกับคู่ธุรกิจ (Suppliers)

ผลการทดสอบพบว่าผู้ใช้สามารถกำหนดเงื่อนไขต่าง ๆ ใน CBDC (Programmable Money) ให้สอดรับกับกิจกรรมทางธุรกิจได้เป็นอย่างดี เช่น การกำหนดเงื่อนไขให้มีการชำระเงินตามข้อมูลที่ระบุไว้ในใบแจ้งหนี้ (Invoices) ในธุรกิจ Supply Chain Financing และการกำหนดเงื่อนไขการชำระเงินให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการเท่านั้น เพื่อลดปัญหาการบริหารเงินสด เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ระบบต้นแบบที่พัฒนาโดยการใช้ DLT ยังมีข้อจำกัดบางประการ เช่น ความสามารถในการรองรับปริมาณธุรกรรมจำนวนมาก และการปกปิดความเป็นส่วนตัวของธุรกรรมทางการเงิน ที่ยังคงต้องหาแนวทางจัดการทั้งในเชิงเทคโนโลยีหรือการออกแบบระบบต่อไป (สำหรับใครที่ต้องการทราบรายละเอียดเกี่ยวกับผลการทดสอบของโครงการฯ สามารถดาวน์โหลดข้อมูลได้ที่นี่)

การพัฒนาระบบต้นแบบนี้ ถือเป็นครั้งแรกของ ธปท. ที่ได้ขยายขอบเขต CBDC ไปสู่ผู้ใช้งานในภาคธุรกิจมากขึ้น ซึ่งเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการเตรียมความพร้อม เพื่อให้ก้าวทันการพัฒนาของสกุลเงินดิจิทัลทั้งในและต่างประเทศที่อาจเข้ามามีบทบาทมากขึ้นต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการเงินในอนาคต

สำหรับ ในปี 2564 – 2565 ธปท. จะมุ่งเน้นการศึกษาและพัฒนาสกุลเงินดิจิทัลสำหรับภาคประชาชน (Retail CBDC) ซึ่งการพัฒนา CBDC ให้สามารถใช้ได้ในวงกว้าง จำเป็นต้องให้ความสำคัญกับความปลอดภัย และประสิทธิภาพ โดยคำนึงถึงผลกระทบด้านต่าง ๆ ทั้งด้านการดำเนินนโยบายทางการเงิน เสถียรภาพระบบการเงิน และบทบาทของสถาบันการเงินและธนาคารกลาง รวมถึงเปิดให้ ภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนารูปแบบ CBDC ซึ่งจะส่งเสริมให้การทำธุรกรรมทางการเงินสามารถรองรับการพัฒนานวัตกรรมท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงสู่ยุคดิจิทัล

ทั้งนี้ ธปท. จะเผยแพร่รายละเอียดผลการศึกษาการออก Retail CBDC ในระยะต่อไป