RarePizzas ซึ่งเป็นโปรเจกต์เหรียญ Non-Fungible Token (NFT) ที่ถูกขับเคลื่อนบน Chainlink นั้นกำลังรำลึกถึงเหตุการณ์วัน Bitcoin ‘Pizza Day’ ที่แสนโด่งดัง ด้วยการประกาศขายเหรียญพิซซ่าดิจิทัลที่ไม่ซ้ำใครจำนวนกว่า 10,000 ชิ้นในวันนี้
ทำไมต้องเป็นพิซซ่า NFT ?
พิซซ่านั้นถือว่าเป็นสินค้าชิ้นแรกในโลกแห่งความเป็นจริงที่สามารถซื้อได้ด้วย Bitcoin ซึ่งย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีก่อนนักพัฒนาในยุคแรก ๆ อย่างนาย Laszlo Hanyecz ได้จ่ายเงินไปกว่า 10,000 Bitcoin เพื่อซื้อพิซซ่าสองชิ้นเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2010 จนทำให้เรื่องราวนี้กลายเป็นตำนาน เนื่องจากปัจจุบัน Bitcoin ที่ถูกซื้อไปนั้นมีมูลค่าสูงถึง 566 ล้านดอลลาร์
RarePizzas ต้องการขายเหรียญพิซซ่า NFTs จำนวน 10,000 ชิ้น เพื่อใช้เป็นเงินทุนในการแจกพิซซ่าในโลกแห่งจริงมากกว่า 10,000 ชิ้นในวันที่ 22 พฤษภาคม โดยมีศิลปินกว่า 300 คนและนักพัฒนาประมาณ 30 คนจากทั่วโลก ที่ร่วมกันช่วยโปรโมทและส่งเสริมการตลาดในแคมเปญที่มีชื่อเรียกว่า ‘Pizza Mafia’
นับตั้งแต่การออกแบบกล่องบรรจุพิซซ่า ไปจนถึงส่วนผสมแต่ละอย่าง แนวความคิดทั้งหมดได้รับการสนับสนุนจากอาสาสมัครและได้รับการจัดการโดยนาย Anthony Shafer ศิลปิน VFX ชื่อดังที่ได้รับความช่วยเหลือจากทีมนักออกแบบในการจัดการอัลกอริธึมศิลปะในรูปแบบการกระจายอำนาจ
“Shafer ได้ใช้ซอฟต์แวร์ VFX สำหรับการออกแบบภาพเคลื่อนไหวระดับมืออาชีพที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งแตกต่างจากที่ใครหลายคนเคยเห็นมาในตลาด NFT” อ้างอิงตามบล็อกโพสต์ของโครงการ
Chainlink มีประโยชน์อย่างไรกับโปรเจกต์นี้
เพื่อให้แน่ใจได้ว่าพิซซ่าดิจิทัลแต่ละชิ้นจะไม่ซ้ำกัน RarePizzas ได้ทำการรวมฟังก์ชันการสุ่มตรวจสอบสัญญา Smart contract ของ Chainlink (VRF) ไว้ในโปรเจกต์ของพวกเขา
https://twitter.com/chainlink/status/1373835821153914880
ChainlinkVRF ได้เปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งมีหน้าที่ทำให้แอปพลิเคชันบนบล็อกเชนสุ่มตรวจความเท่าเทียมกันสำหรับผู้เข้าร่วมในสัญญา Smart contract ทั้งหมด ในขณะเดียวกันก็จะช่วยลดความเสี่ยงจากผู้ที่ไม่หวังดีมาที่เข้าใช้ประโยชน์จากสัญญา Smart contract ซึ่งวิธีนี้จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถมั่นใจได้ว่าไม่มีพิซซ่าซ้ำกันมากกว่าหนึ่งชิ้น