Grayscale Bitcoin Trust (GBTC) กองทุนดูแลด้านสินทรัพย์ดิจิทัลที่เปิดให้นักลงทุนสถาบันได้เข้ามาลงทุนใน Bitcoin ผ่านการซื้อหุ้น GBTC ของกองทุนเตรียมปลดล็อค GBTC ในอีกไม่กี่วันที่จะถึงนี้ นับเป็นครั้งที่ใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งกว่า 140,000 GBTC หรือ 16,000 BTC ซึ่งคิดเป็นเงินราว 600 ล้านดอลลาร์
ปัจจุบันกองทุน Grayscale Bitcoin Trust มีจำนวน Bitcoin ถือครองมากที่สุดอยู่ที่ราว 650,000 BTC คิดเป็นมูลค่าภายใต้การบริหารจัดการสินทรัพย์ในกองทุนกว่า 2.2 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยในเดือนนี้ถือว่าเป็นเดือนที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่งสำหรับตลาด Bitcoin ในเรื่องความผันผวนของราคาที่อาจเกิดขึ้นอันเนื่องมาจากการปลดล็อค GBTC ของกองทุน Grayscale ซึ่งจะทำให้ลูกค้าของพวกเขาเข้าถึง Bitcoin รวมกว่า 16,000 BTC และนักลงทุนสถาบันที่ถือครองหุ้น GBTC สามารถนำหุ้นมาขายในตลาดรอง (Secondary Market) ให้แก่นักลงทุนรายย่อยได้
Grayscale Effect ที่ไม่ควรมองข้าม
ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่าการลงทุนใน Grayscale Bitcoin Trust หรือ GBTC นักลงทุนจะได้รับเป็นหุ้น GBTC แทนซึ่งไม่ใช่การซื้อ Bitcoin โดยตรง เพียงแต่หุ้น GBTC นั้นจะอิงกับสินทรัพย์ Bitcoin หรือที่เรียกว่า (Underlying Asset) โดยมีเงื่อนไขที่ต้องทำความเข้าใจอย่างละเอียดเช่น ค่าธรรมเนียม การไถ่ถอน และการล็อค เป็นต้น
ซึ่งเงื่อนไขที่สำคัญที่สุดนั่นก็คือการล็อคหุ้น GBTC โดยผู้ซื้อจะถูกล็อคการขายหุ้น GBTC ไว้เป็นเวลา 6 เดือนทำให้ไม่สามารถนำออกมาขายได้ (และในเดือนกรกฎาคมนี้ก็จะเป็นเดือนที่ปลดล็อคการขายหุ้น) นับเป็นหนึ่งความเสี่ยงที่นักลงทุนสถาบันหลีกเลี่ยงไม่ได้
แต่ทำไมนักลงทุนสถาบันจึงยอมรับความเสี่ยงดังกล่าว?
เนื่องจากราคาหุ้น GBTC ในตลาดรองแต่ก่อนนั้น Premium มาก ทำให้ราคาหุ้น GBTC ในตลาดรอง “สูง” กว่าการที่นักลงทุนสถาบันซื้อจากกองทุนโดยตรงในราคา NAV (Net Asset Value) ซึ่งจากความร้อนแรงของกระแส Bitcoin ทำให้ผู้เล่นรายย่อยไม่มีทางเลือกประกอบกับ GBTC ครองส่วนแบ่งของตลาดรองไปซะแทบทั้งหมด จึงทำให้เกิดความต้องการหุ้น GBTC ในตลาดรองสูง ส่งผลให้ราคาเกิด Premium ซึ่งนักลงทุนสถาบันที่ซื้อ GBTC กับกองทุนโดยตรงจะได้ราคาหุ้นแบบ NAV และยอมเสี่ยงในการถูกล็อคการขายเพราะท้ายที่สุดนักลงทุนสถาบันก็ยังได้กำไรจากอัตรา Premium สูงอยู่ดีนั่นเอง
แล้วการปลดล็อคเพื่อขายหุ้น GBTC จะส่งผลต่อราคา Bitcoin อย่างไร?
เมื่อปลดล็อคแล้วนักลงทุนก็จะสามารถเข้าถึง Bitcoin ตามอัตราส่วนที่ได้ซื้อหุ้นไว้กับกองทุน หลังจากนั้นจำนวน Bitcoin ที่ได้รับมูลค่ากว่า 600 ล้านดอลลาร์อาจถูกเทขายกระจายเข้าสู่กระดานเทรดต่าง ๆ แต่อย่างไรก็ตามนักลงทุนสถาบันที่ได้ขายหุ้น GBTC อาจนำเงินกลับมาซื้อ Bitcoin ในตลาดคริปโตเพื่อชดเชยจากการ Short sell ในการ Hedging ช่วงระหว่างที่ถูกล็อคหุ้นไว้ก็เป็นได้
สาวกกว่า 32% มองว่าตลาดกระทิงจะมาหลังการปลดล็อคครั้งนี้
ผู้เชี่ยวชาญด้านคริปโต Lark Davis ที่มีผู้ติดตามบน Twitter กว่า 4 แสนคน ได้จัดทำผลสำรวจความคิดเห็นของสาวก Bitcoin ว่า “คุณคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากการปลดล็อคหุ้น 140,000 GBTC ของ Grayscale ในเดือนนี้”
ซึ่งกว่า 32.2% ของผู้ตอบแบบสำรวจมองว่าจะกลายเป็นตลาดกระทิง
และรองลงมา 29.5% มองว่าจะกลายเป็นตลาดหมี
ส่วน 21.8% นั้นไม่สนใจและจะทะยอยเก็บ Bitcoin ไปเรื่อย ๆ
โดยมีผู้เข้าร่วมโหวตการ 20,000 คน แต่อย่างไรก็ตามยังมีผู้คนยังเข้าใจผิดเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นนี้ ซึ่งจริง ๆ แล้วไม่ใช่เป็นการปลดล็อค Bitcoin จำนวน 140,000 BTC แต่เป็นการปลดล็อคหุ้น GBTC จำนวน 140,000 GBTC หรือที่มีมูลค่าเท่ากับ 16,000 BTC เพียงเท่านั้น ทำให้ผลสำรวจที่ Lark Davis ทำขึ้นมาบน Twitter โดนกระหน่ำเข้ามาสอบถามเป็นจำนวนมาก
ท้ายที่สุดคงต้องติดตามกันต่อว่าสถานการณ์ของ Bitcoin จะเป็นอย่างไร จะเกิดเหตุการณ์เดียวกันกับการปลดล็อคครั้งก่อน ๆ แล้วพยุงราคาขึ้นไปได้หรือไม่ เป็นสิ่งที่นักลงทุนต้องติดตามอย่างใกล้ชิด