เว็บ OKCoin หรือหนึ่งในเว็บเทรดบิ๊ก 3 ในประเทศจีนได้ทำการออกกฏเพิ่มเติมเกี่ยวกับหัวข้อ AML (Anti Money Laundering) หรือการป้องกันการฟอกเงิน โดยการประกาศดังกล่าวเป็นไปเพื่อให้ต้องการสอดคล้องกับกฏหมายของรัฐบาล
โดยการประกาศดังกล่าวนี้ได้ถูกโพสในทั้งเว็บเวอชันจีนและเวอชันต่างประเทศ โดยสถานการณ์ของเว็บในขณะนี้ยังไม่อนุญาตให้มีการถอนบิทคอยและไลท์คอยออกจากเว็บไซต์ เนื่องจากการกดดันจากทางธนาคารกลางแห่งประเทศจีน
โดยเนื้อหาของการประกาศดังกล่าวมีใจความคร่าวๆว่า
“เมื่อกล่าวถึงมุมมองของกฏหมายการป้องกันการฟอกเงินและการควบคุมความเสี่ยงแล้วนั้น เราได้ทำการสรุปแนวทางทางด้านกฏหมายแบบเข้าใจง่ายมาให้อ่านแล้ว โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้ประสบการณ์ในการเทรดของคุณเป็นไปได้อย่างดีและปลอดภัย และแน่นอนมันจะไม่กระทบเงินและการเทรดของคุณอย่างแน่นอน”
มากไปกว่านั้น ทางโอเคคอยยังได้กล่าวกับลูกค้าของพวกเขาว่าแอคเคาท์ของพวกเขาจะได้รับปฏิบัติเป็นกรณีพิเศษสำหรับผู้ที่เทรดและมีเงินในบัญชีไปแล้วมากกว่า 10,000 ดอลลาร์สำหรับลูกค้านอกประเทศ ในขณะที่ลูกค้าในประเทศจีนนั้นไม่มีการเผยแพร่จำนวนดังกล่าวแต่อย่างใด
สำหรับการปฏิบัติเป็นกรณีพิเศษที่ทางโอเคคอยระบุนั้นได้รวมถึงการยืนยันตัวตนผ่านระบบวีดีโอคอลด้วย
‘สำหรับการยืนยันตัวตนระดับสองนั้น คุณจะต้องใช้สำเนาพาสปอร์ต, สำเนาบัตรประชาชนหรือใบขับขี่, และเอกสารยืนยันที่อยู่ (เช่นสเตตเม้นของธนาคาร, ใบแจ้งค่าไฟ) ที่ออกให้โดยไม่ต่ำกว่า 3 เดือน’ อ้างอิงจากประกาศบนหน้าเว็บของโอเคคอย โดยทางลูกค้านั้นจะต้องเตรียมเอกสารเหล่านี้ก่อนเริ่มวีดีโอคอล
‘การยืนยันตัวตนด้วยวีดีโอนั้นจะต้องการอุปกรณ์ที่มีกล้องและสามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เนต (เช่นโทรศัพท์มือถือ, คอมพิวเตอร์โนตบุค, แทบเบลต) และคุณจะต้องแสดงเอกสารดังกล่าวหน้ากล้อง’
สิ่งสำคัญอีกอย่างในประกาศของโอเคคอยก็คือเรื่องของกระเป๋าบิทคอยและไลท์คอยที่ใช้ระบบ single-signature ที่มีแอดเดรสขึ้นต้นด้วย “1” และ “L” นั้นจะไม่สามารถใช้งานได้หลังจากวันที่ 23 เมษายน 2017 ในขณะที่กระเป๋าที่ใช้ระบบ multi-signature นั้นจะไม่มีผลกระทบ
เป็นเวลาเกือบสองเดือนมาแล้วที่เว็บโอเคคอยได้ทำการหยุดให้บริการถอนบิทคอยและไลท์คอยเพื่อให้เป็นไปตาม ‘กฏหมายป้องกันการฟอกเงิน และกฏหมายเรื่องของการโอนเงินข้ามประเทศ’ โดยการประกาศการหยุดให้บริการถอนเมื่อเดือนที่แล้วนั้นส่งผลให้ราคาบิทคอยตกลงอย่างรุนแรง
ก่อนหน้านี้หลายๆฝ่ายต่างก็ตั้งหน้าตั้งตารอให้เว็บเทรดต่างๆเปิดให้บริการถอนตามปกติ แต่หลังจากนั้นก็ถูกยืดเวลาออกไปโดยไม่มีกำหนด แต่หลังจากการประกาศนี้ออกมาทำให้มีชาวจีนหลายๆคนออกมาตั้งหน้าตั้งตารอการเปิดให้บริการการถอนบิทคอยอีกครั้ง