บริษัทสตาร์ทอัพใน Denver, Colorado ได้สร้างตลาดกู้ยืมเงินที่มีฐานจากเทคโนโลยีบล๊อกเชน Secured Automated Lending Technology, หรือ SALT ซึ่งเป็นสมาชิกของบริษัททางการเงินตั้งใจจะตั้นตนเป็นเป็นแพลตฟอร์มแนวหน้าที่ให้บริการด้านการกู้ยืมการคำ้ประกันด้วยบิทคอนย์และเงินดิจิตอลสกุลอื่นๆ
“การกู้ยืมเงินจะปลอดภัยขึ้นได้ด้วยเงินดิจิตอล”
SALT จะอนุญาติญาติให้สมาชิกใช้บิทคอยน์หรือ Ether เหมือนสินทรัพย์และใช้ในการกู้ยืมได้ แพลตฟอร์มใหม่นี้มีพื้นฐานมาจาก Ethereum ERC20 smart contracts ซึ่งจะช่วยให้ผู้กู้ยืม “กู้ทรัพย์สิน” ผ่านระบบนี้ จุดสำคัญของของระบบบนี้คือมันมีกลไกในการการสนับสนุนมูลค่าสินทรัพย์ของนักลงทุนในขณะที่ลดความยุ่งยากทุกขั้นตอนของระบบกู้ยืมและยกระดับความสามารถของตลาดกู้ยืมที่มีฐานจากบล๊อกเชน
โดยการทำงานของ SALT มีดังนี้ ลองจินตนาการว่าคุณขายบิทคอนย์ที่ถืออยู่ออกไปในปี 2016 และได้แต่นั่งมองราคาที่พุ่งสูงในปี 2017 ผลที่ได้คือคุณจะเสียสิ่งที่คุณควรได้ในเวลาที่คุณเคยมีบิทคอยน์
ด้วย SALT สำหรับนักลงทุนที่มีหลักทรัพย์อยากให้กู้เงินดิจิตอล สิ่งนี้จะจัดการเรื่องระยะเวลาและดอกเบี้ยได้
การกู้เงินจาก SALT มีขั้นตอนดังนี้
- ผู้กู้จะต้องสมัครสมาชิกและเชื่อมบัญชีกับ SALT Oracle Wallet ซึ่งเป็นกระเป๋า multi-signature blockchain ซึ่งสามารถเก็บหลักทรัพย์ในขณะที่จะจัดการการปล่อยกู้ได้อย่างอัตโนมัติ
- เมื่อเงินกู้ยืมถูกอนุมัติมันจะถูกโอนไปยังบัญชีของผู้กู้ยืม
- การจ่ายหนี้ ผู้กู้จะต้องจ่ายเงินให้ผู้กู้ในเวลาที่กำหนด
- เมื่อชำระหนี้เสร็จสิ้นผู้กู้จะได้หลักทรัพย์ค้ำประกันคืน
SALT จะไม่ตรวจสอบ credit ของผู้กู้แต่จะป้องกันการฟอกเงิน (Anti-money Laundering) และจะตรวจสอบ KYC (Know Your Customer) เงินกู้ที่ได้จากระบบนี้จะถูกชำระด้วยสกุลเงินท้องถิ่นนั้นๆ
เงินดิจิตอลที่เป็นทรัพย์สินจะถูกใช้แค่เป็นสินทรัพย์ในหลักประกันสำหรับเงินกู้ ผู้กู้ยืมสามารถชำระก่อนได้โดยไม่ต้องถูกบังคับชำระค่าปรับที่ชำระก่อนกำหนด
สมาชิกของ SALT ไม่จำเป็นต้องมีสินทรัพย์ที่เป็นเงินดิจิตอลในการที่จะปล่อยกู้บนแพลตฟอร์มนี้ ผู้ให้กู้จะต้องเป็นนักลงทุนที่ได้รับการรับรองด้วย federal regulations และถูกจัดตั้งจาก U.S. Securities และกรรมการตลาดหลักทรัพย์ และต้องผ่านการสอบของ SALT
เมื่อตอนที่บริษัทประกาศเปิดตัวแบบ soft launch นั้น นาย Shawn Owen CEO ของ SALT บอกกับ Bitcoin Magazine ว่า
“ตอนนี้ถ้าคุณมีเงินดิจิตอล สินทรัพย์เหล่านั้นจะไม่ได้รับการยอมรับโดยผู้ให้กู้ แต่ด้วย SALT เราจะเห็นอนาคตที่ทรัพย์สินต่างๆอยู่บนบล๊อกเชน ด้วยการให้กู้ยืมเงินที่สะท้อนถึงชีวิตแบบดิจิทัลที่เชื่อมต่อกันทั่วโลกของเรา”
Owen บอกว่าเขาลาออกจากงานประจำในปี 2016 โดยคิดว่าไอเดียนี้จะสร้างมูลค่ากว่าพันล้านดอลล่าจากเงินดิจิตอลที่ไม่ได้ใช้
“ผมเห็นเทรนด์ของคนถือบิทคอยน์ส่วนใหญ่ก็แค่อยากจะถือสินทรัพย์ของตัวเองไว้ ผมเลยนึกไอเดียนี้ขึ้นมาได้ ผมเลยเดินหน้ากับมันเต็มที่โดยที่ไม่มองกลับหลัง”
“เราชอบชื่อนี้เพราะเกลือเป็นสินค้าที่ใช้แทนเงินอย่างแรกในประวัติศาสตร์ SALT ของเราคือการร้อยเรียงเทคโนโลยีบล๊อกเชนและ smart contracts ในการสร้างนิยามใหม่ของการกู้ยืม และสิ่งต่างๆที่เกี่ยวกับเครดิตของผลิตผล และใส่มันเข้าไปใน smart contract ทำให้มันจะสะดวกและปลอดภัยขึ้น”
Owen กล่าวว่าชุมชนบิทคอยน์มากมายมีจุดมุ่งหมายที่เขาจะเทขายเพียงแค่พวกเค้ารู้สึกว่ามันกำไร แล้วพอหันมองกลับไปแล้วพบว่าพวกเขาพลาดโอกาสไปมากมายในการขายนั้น และ Owen ยังเพิ่มเติมอีกว่าส่วนใหญ่พวกเค้าจะกังวลเกียวกับภาษีกำไรจากเงินทุนและหวังว่าตัวเองจะย้อนกลับไปซักหกเดือนและซื้อ Ether หรือบิทคอนย์กลับมา
สำหรับแนวโน้มเทรนของระบบการกู้ยืมด้วยบล็อกเชน Owen มุ่งที่จะเพิ่มปริมาณเงินดิจิตอลที่ออนไลน์อยู่และใช้เทคโนโลยีในการมีส่วนร่วมกับมัน เขาบอกว่า ถึงแม้มันอาจจะมีสะดุดบ้างแต่เขาเชื่อว่าพวกเราจะเห็นโลกที่มีการใช้กระเป๋าเงินออนไลน์และบล็อกเชนมากขึ้น
“ผมเห็นโลกที่พอร์ทใหญ่ๆจะเต็มไปด้วยสินทรัพย์ดิจิตอลและมันจะมันจะสามารถให้กู้ยืมได้คล่องตัวกว่าพอร์ตทุกวันนี้ ผมแน่ใจว่ามันจะแก้ปัญหาเรื่องสภาพคล่องที่ไร้ประสิทธิภาพในตลาดได้”
ถึงแม้ว่า SALT จะดำเนินงานอยู่แค่ในสหรัฐฯ นาย Owen ตั้งใจจะมุ่งเป้าที่ไอร์แลนด์เป็นที่ถัดไปตามด้วยแคนนาดา
“ภาพที่เรามุ่งหวังคือการสร้างกลไกที่เชื่อมการกู้ยืมกับอะไรก็ตามระหว่างบุคคลหรือธุรกิจ มันจะติดต่อกันแบบ peer to peer ซึ่งสัญญาจะสามารถบังคับใช้ได้โดยปราศจากความเสี่ยงของคู้ค้า”
นาย Erik Voorhees ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ ShapeShift และเป็นคณะกรรมการของ SALT มีความเห็นว่า
“นวัตกรรมแทนที่อย่าง SALT เป็นโปรเจคที่สำคัญในการขยายประโยชน์และทำให้โลกเข้าถึงเทคโนโลยีบล๊กเชน”
ความเห็นจากผู้แปล
“นี่เป็นอีกนวัตกรรมที่น่าสนใจเพราะถ้าสินทรัพย์ที่เป็นดิจิตอลถูกยอมรับเป็นหลักประกันได้ เงินดิจิตอลที่จากเดิมคนนิยมถือเพียงแค่เก็งกำไรจะสร้างมูลค่าเพิ่มและความคล่องตัวกับตลาดอย่างมหาศาลยังไม่รวมถึงการใช้เทคโนโลยี smart contract ในการติดตามผู้กู้ยืมและตรวจสอบสิ่งอื่นๆ
ที่จริงแล้ว Poloniex ก็มีการให้กู้ยืมเงินโดนที่ผู้กู้ไม่สามารถเบี้ยวได้ เพื่อให้ผู้กู้เอาไปทำ Margin trade แต่วิธีนี้จะต่างออกไปเพราะมันสามารถเปลี่ยนมาเป็นเงินสกุลที่เราใช้ในชีวิตประจำวันได้”
Source: https://bitcoinmagazine.com/articles/salt-enables-traditional-lending-secured-cryptocurrency/