<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ราคา Bitcoin อาจพุ่งขึ้นเมื่อธนาคารในประเทศอิตาลี่เริ่มส่งสัญญาณเตือนถึงความไม่แน่นอน

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

หลังจากเหตุการณ์ความล้มเหลวในการบริหารงบประมาณของรัฐบาลกรีซและไซปรัสนั้น รัฐบาลอิตาลี่เริ่มส่งสัญญาณเตือนออกมาบ้างแล้ว ในขณะที่กฎหมายด้านการธนาคารใหม่ในยุโรปดูเหมือนว่าจะจำกัดอำนาจของรัฐบาล

เมื่อวันที่ 25 มิถุนายนที่ผ่านมานั้น รัฐบาลของอิตาลี่ได้ออกมาช่วยพยุงธนาคารขนาดกลางนามว่า Banco Popolare di Vicenza และ Vaneto Banca ที่เกือบจะล้มละลาย หลังจากที่ไม่สามารถหานักลงทุนเข้ามาช่วยพยุงได้ก่อนหน้านี้

โดยสถานการณ์ดังกล่าวกำลังส่งผลให้นักลงทุนทั่วยุโรปออกมาตั้งคำถามถึงความปลอดภัยในระบบธนาคาร เพราะก่อนหน้านี้มีตัวอย่างที่น่ากลัวอย่างธนาคารในไซปรัสที่เคยล้มเหลวมาแล้ว

เมื่อปี 2013 ที่ผ่านมานั้น ได้ส่งผลให้ราคา Bitcoin พุ่งขึ้นอย่างน่าตกใจ เมื่อนักลงทุนหลายๆคนต่างก็หันมามองหาตัวเลือกในการลงทุนใหม่ที่ปลอดภัยกว่า (safe haven) อย่าง Bitcoin ซึ่งความล้มเหลวของธนาคารนั้นอาจถือได้ว่ามีส่วนช่วยในการผลักดันให้ราคาเหรียญคริปโตพุ่งขึ้นก็เป็นได้

การอุ้มธนาคารที่มีมูลค่าสูงเกินเกินไป

ทางรัฐบาลอิตาลี่จะใช้เงินจำนวน 4.785 พันล้านยูโรป้อนเข้าไป เพื่อให้ธนาคาร Intesa Sanpaolo หรือธนาคารปลีกแห่งแรกของประเทศอิตาลี่ไม่ล้มละลาย โดยนาย Pier Carlo Padoan หรือรัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจกล่าวว่าค่าใช้จ่ายในการลบล้างความวิตกกังวลของประชาชนอาจจะพุ่งขึ้นสูงถึง 17 พันล้านยูโร เพื่อรักษาเครดิตของธนาคารเหล่านี้ไว้

การมากู้วิกฤติของธนาคารเหล่านี้ถือเป็นความตัดสินใจของทางรัฐบาล ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่าเงินดังกล่าวเป็นเงินภาษีจากประชาชนชาวอิตาลี่ ไม่ได้มาจากสหภาพยุโรป การหันมาอุ้มธนาคารในครั้งนี้บางทีอาจเป็นวิธีการแก้ปัญหาที่อิตาลีสามารถทำได้ด้วยตัวเองโดยที่ไม่ต้องพึ่งพาประเทศอื่นๆในสหภาพยุโรป ซึ่งจำนวนหนี้ที่อยู่ภายใต้พรมนั้นอาจไม่มีใครสามารถรู้ได้

กรณีของอิตาลีครั้งนี้ได้แสดงให้เห็นถึงความหย่อนยานของ BRRD (Bank Recovery and Resolution Directive) ที่เป็นผู้รักษาแนวคิดที่ว่าไม่ควรจะนำภาษีของประชาชนมาอุ้มธนาคารที่มีการบริหารจัดการที่ย่ำแย่

เมื่อปี 2015 ที่ผ่านมานั้นได้เกิดเหตุการณ์วิกฤติทางการเงินในประเทศกรีซจนส่งผลให้ราคา Bitcoin เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเนื่องจากการประกาศลิมิตการถอนเงินออกจากธนาคารที่ทำให้ประชาชนรู้สึกในความไม่ปลอดภัยในสินทรัพย์ของพวกเขา จึงทำให้หลายๆคนละทิ้งการถือเงินยูโรมาถือ Bitcoin แทน

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น