<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ธนาคารแห่งประเทศไทยและสิงคโปร์ร่วมมือกันเซ็นสัญญาด้าน Fintech

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ธนาคารแห่งประเทศไทยและธนาคารแห่งประเทศสิงคโปร์ได้ร่วมกันเซ็นสัญญาร่วมมือกันทางด้าน Fintech หรือ Fintech Cooperation Agreement (CA) เพื่อทำการพัฒนาระบบ ecosystm ทางด้านการเงินของภูมิภาคเอเซียนในปัจจุบัน

โดยทั้งทางธนาคารกลางและผู้ออกกฎหมายทางด้านการเงินทั้งของในไทยและสิงคโปร์ต่างก็หันมาร่วมมือกันตกลงในข้อสัญญาทางด้าน Fintech ระหว่างการประชุม BOT-MAS ที่จัดขึ่นโดยทางธนาคารกลางของสิงคโปร์

โดยข้อตกลงนั้นมีขึ้นเพื่อ “พัฒนาระบบ ecosystem ของการเงินให้ดีขึ้น” ทั้งในสองประเทศรวมถึงประเทศอื่นๆในเอชเชียตะวันออกเฉียงใต้ อ้างอิงจากการประกาศ ซึ่งภายใต้ข้อตกลงนั้น ทางธนาคารกลางทั้งสองจะทำการแบ่งปันข้อมูลทางด้านเทรนด์และเทคโนโลยีทางด้านการเงิน รวมถึงผลกระทบทางด้านการบังคับใช้กฎหมายทางด้านการเงิน

“ในยุคปัจจุบันที่ที่มีความผันผวนและความซับซ้อนทางด้านเทคโนโลยีและนวัติกรรมนั้น ผมเชื่อว่าการร่วมมือกันจะช่วนทำให้หน่วยงานทางด้านการเงินระดับภูมิภาคมีความเสถียรและเติบโตอย่างมันคง” กล่าวโดยนายวิรไท สันติประภพหรือผู้ว่าฯธนาคารแห่งประเทศไทย

ที่น่าสนใจไปกว่านั้นคือ สนธิสัญญา Fintech ที่ว่านี้จะทำให้บริษัททางด้าน Fintech ทั้งในประเทศไทยและสิงคโปร์สามารถทำงานร่วมกันได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบุคคลที่มีความสามารถในการทำงานระหว่างสองประเทศนี้

โดยทางธนาคารกลางทั้งสองนี้ยังได้อัพเดต MoU หรือบันทึกความเข้าใจในเรื่องจอง Banking Supervision ในระหว่างการประชุมอีกด้วย โดยการอัพเดต MoU ที่มีอายุถึง 11 ปีนี้จะช่วยสร้างความเข้าใจทางด้านการแลกเปลี่ยนข้อมูล รวมไปถึงการร่วมมือกันทางด้านการออกใบอนุญาต, การบริหารความเสี่ยง และอีกมากมาย

Agenda ของประเทศสิงคโปร์นั้นดูเหมือนมีการบอกไว้อย่างชัดเจนว่าต้องการที่จะเป็นผู้นำทางด้านศูนย์รวม Fintech ระดับโลก โดยคำสั่งดังกล่าวนั้นดูเหมือนว่าจะมาจาก MAS หรือธนาคารกลางประเทศสิงคโปร์ที่เพิ่งจะทำการทดสอบระบบใช้จ่ายระหว่างธนาคารผ่าน Blockchain โดยใช้สกุลเงินดิจิตอลของตัวเอง โดยการทดสอบนั้นได้เสร็จสิ้นไปด้วยดีเมื่อช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งทางธนาคารกลางนั้นได้เผยให้เห็นรายละเอียดการทำให้สกุลเงินดอลลาร์สิงคโปร์์กลายเป็นดิจิตอลบน Blockchain ของ Ethereum

นาย Ravi Menin หรือ MD ของธนาคารสิงคโปร์ได้กล่าวว่า

“CA กับ MOU นั้นถือเป็นสิ่งสำคัญที่สะท้อนให้เห็นถึงการร่วมมือของพวกเราเพื่อไขว่คว้าโอกาศใหม่ๆทางด้านบริการด้านการเงิน ในขณะที่ยังควบคุมความเสี่ยงได้”

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น