<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

นักขุด Bitcoin ในจีนเริ่มย้ายฐานการขุดไปต่างประเทศเนื่องจากความกลัวการกวาดล้างของรัฐ

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

มีรายงานมาว่าจำนวนนักขุดเหรียญคริปโตในประเทศจีนจำนวนมากกำลังพิจารณาทางเลือกใหม่ หลังจากพบความไม่แน่นอนด้านกฎหมายในการเปิดเหมืองการขุดในประเทศของตัวเอง แม้ว่าทางรัฐบาลจีนจะไม่ได้ออกมาชี้ให้เห็นว่าพวกเขาจะขยายผลการกวาดล้างเว็บเทรด Bitcoin ไปยังนักขุดด้วย ในขณะที่นักขุดอีกจำนวนมากกำลังวางแผนเปลี่ยนสถานที่ตั้งเหมืองใหม่

เวียดนาม, ลาว, ไทย, รัสเซีย และสหรัฐฯ

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เอกสารเวียนฉบับหนึ่งบ่งชี้ให้เห็นว่ารัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่งในมลฑลเสฉวนเริ่มที่จะกวาดล้างการขุด Bitcoin แล้ว แม้ว่าพวกเนื้อหานั้นจะมีลักษณะอ้อมค้อมโดยกล่าวว่าการแจกจ่ายพลังงานกระแสไฟฟ้าที่ผลิตจากน้ำไปให้นักขุดนั้นส่งผลทำให้การจ่ายไฟต่อครัวเรือนในช่วงหน้าแห้งแล้งไม่เพียงพอ ส่งผลทำให้นักขุดส่วนใหญ่ต้องมองหาตัวเลือกนอกประเทศอื่นๆเพื่อลดความเสี่ยงด้านการกวาดล้างจากรัฐบาล

นักขุดรายหนึ่งนามว่า Akira Cui ได้กล่าวให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น South China Morning Post โดยกล่าวว่านักขุดเป็นจำนวนมาก “ได้เข้าไปเยี่ยมชมประเทศเวียดนาม, ลาว, ไทย, รัสเซีย และสหรัฐฯเพื่อต่อรองราคาไฟฟ้ากับผู้มีอำนาจในท้องถิ่นและได้ทำการซื้อโกดังไว้เพื่อเหตุฉุกเฉินในอนาคต” นาย Cui อ้างว่า “แผนผังของธุรกิจการขุดนั้นยังไงก็ต้องขยายออกไปนอกประเทศอยู่แล้ว แม้ว่าโอกาสที่รัฐบาลจีนจะออกมากวาดล้างนักขุดในประเทศนั้นจะมีเพียงแค่ 1% ก็ตาม”

หนังสือพิมพ์ South China Morning Post กล่าวว่าพวกเขาทำการติดต่อบริษัทด้านการขุดชั้นนำประมาณ 4 บริษัทมาแล้ว โดยนาย Cui นั้นถือเป็นตัวแทนของบริษัทเหล่านั้น ในขณะที่ตัวแทนจากบริษัทด้านการขุดอื่นๆมักจะไม่ค่อยออกมาให้ความเห็นกับสื่อ เนื่องจากมีรายงานว่านักขุดเหล่านั้นได้ทำการเซ็นสัญญาตกลงกับบริษัทผู้ให้บริการด้านไฟฟ้าอย่างลับๆ และปกปิดตัวเลขไม่ให้รัฐบาลรู้ “ไม่มีใครอยากจะออกมาอวดเรื่องพวกนี้หรอก มันเป็นการดีที่สุดที่จะรวยอย่างเงียบๆ” กล่าวโดยนาย Cui

มีการคาดการณ์ว่าแรงขุด Bitcoin กว่า 70% ของทั้งหมดนั้นมาจากจีน

นาย Cui กล่าวว่าตัวเขานั้นได้เริ่มขุด Bitoin เมื่อปี 2013 หลังจากที่ขายบริษัทอินเทอร์เนต Broadband ของเขาไปด้วยจำนวนมูลค่ากว่า 30 ล้านหยวน (4.5 ล้านดอลลาร์) ในตอนแรกนาย Cui เริ่มที่จะลงทุนไปประมาณ 5-6 ล้านหยวน (แปดแสนดอลลาร์) กับเครื่องขุด และภายหลังก็ได้ขยายจำนวนเครื่องขุดไปประมาณ 100,000 เครื่อง นาย Cui ทำการประมาณไว้ว่าประมาณ 90% ของเครื่องขุดที่เขามีนั้นเป็นของเพื่อนและลูกค้าของเขาที่มาฝากเขาวางและดูแล “มันเป็นอะไรที่หนวกหูมากถ้าจะวางไว้ที่บ้านคุณ ลูกค้าสามารถเลือกที่จะให้ส่งไปที่บ้านพวกเขา หรือวางมันไว้ในโรงงานของผมโดยจะมีค่าใช้จ่าย และสามารถเข้าถึงระบบได้จากระยะไกลด้วย pass code” กล่าวโดยนาย Cui

นาย Cui กล่าวว่าการหาแหล่งพลังงานไฟฟ้าที่มั่นคงนั้นถือเป็นเรื่องสำคัญสำหรับผู้ที่ทำธุรกิจด้านการขุดคริปโตขนาดใหญ่ เครื่องขุดหนึ่งเครื่องสามารถสร้างรายได้ประมาณ 100 หยวน (15 ดอลลาร์) ต่อวัน ซึ่งนั่นหมายความว่าหากมีเครื่องขุดเครื่องใดเครื่องหนึ่งเกิดหยุดทำงานไป อาจเกิดการขาดทุนอย่างสาหัสได้ ดังนั้นนักขุดส่วนใหญ่จึงต้องเตรียมรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันในกรณีที่รัฐบาลจีนเกิดเปลี่ยนใจหันมากวาดล้างพวกเขานั่นเอง

ใครมีอำนาจมากที่สุด

“เรากำลังคุยกับหุ้นส่วนหลายๆรายในลอส แองเจลิสอยู่ และยังได้ไปดูพื้นที่ที่น่าจะเป็นไปได้ในการตั้งเหมืองในรัสเซียและเวียดนามด้วย” กล่าวโดยนาย Cui “ถ้าหากผู้ออกกฎหมายเปลี่ยนใจประกาศทำให้การขุดเหรียญคริปโตผิดกฎหมายละก็ มันจะทำให้เราใช้เวลาแค่สามเดือนในการกลับมาขุดได้ใหม่ จำนวนเงินที่ใช้ในการซื้อที่ดินนั้นถือว่าน้อยมากหากเทียบกับธุรกิจทั้งธุรกิจ”

[rsnippet id=”1″ name=”AdSense In-article ad 1″]

ที่น่าสนใจคือนาย Cui ได้ทำการทำนายไว้ว่าการกวาดล้าง cryptocurrency ของรัฐบาลจีนอาจจะเป็นผลดีต่อชุมชุน Bitcoin ทั้งหมด เขาอ้างว่าการครองตลาด Bitcoin ในช่วงปีที่ผ่านๆมาส่งผลทำให้ความเป็น decentralization นั้นลดลงไป โดยกล่าวว่า “มันเป็นเรื่องสำคัญที่ Bitcoin ควรจะถูกลดความเกี่ยวข้องกับจีนลง มันจะได้มีความแข็งแกร่งขึ้น ตามที่มันได้พิสูจน์มาแล้วในช่วงการขึ้นของราคาที่ผ่านมาไม่นานนี้” นอกจากนี้เขายังเชื่อว่าการกวาดล้างเหรียญคริปโตของรัฐบาลจีนนั้นจะทำให้เครือข่ายของมันมีความเป็น decentralized มากขึ้น โดยกล่าวว่า “มันเป็นเรื่องผิดปกติที่จะมีเว็บเทรดทั่วโลก เมื่อสถาบันแบบ centralized เหล่านั้นไม่ทำตามจุดประสงค์ที่เหรียญคริปโตนั้นถูกสร้างมา”

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น