<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ดูเหมือนว่าธนาคารเกือบทั่วโลกเริ่มที่จะส่งสัญญาณความกลัว Bitcoin ออกมาแล้ว

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เมื่อไม่นานมานี้ นายธนาคารของทั้งรัฐบาลและเอกชนได้ออกมาแสดงความเห็นในเชิงวิพากษ์วิจารณ์ Bitcoin และ cryptocurrency อื่นๆอย่างมากมาย โดยเฉพาะในขณะที่ราคาของมันกำลังพุ่งไปหาจุดสูงสุดในประวัติศาสตร์ และดูเหมือนว่าจะไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงไปได้ในเร็วๆนี้ ซึ่งความเห็นของพวกเขานั้นก็ยังประกอบไปด้วยเรื่องที่เราได้ยินกันคุ้นหูดีเช่นความไม่สเถียรของมัน และการถูกนำไปใช้ในการฟอกเงิน เป็นต้น

นายธนาคารทั่วโลกกำลังตื่นกลัว

นาย Hélder Rosalino หรือบอร์ดผู้อำนวยการของธนาคาร Banco de Portugal ได้อธิบายให้ผู้สัมภาษณ์ António Costa แห่งนิตยสาร Economia Online ว่า “สำหรับในตอนนี้ มันเป็นเรื่องจำเป็นที่จะทำให้แนวคิดนี้เป็นที่เข้าใจได้ง่ายขึ้นว่า cryptocurrency นั้นไม่ใช่สกุลเงิน” เขากล่าว “แต่มันเป็นโซลูชันคอมพิวเตอร์ที่ถูกรองรับไว้โดยเทคโนโลยีที่ทรงอานุภาพมากๆ” เขากล่าวต่อ “แต่มันไม่ใช่เหรียญ ดังนั้นเราจึงต้องมองไปที่ crypto-coin เหล่านั้นด้วยความกังวลและความระมัดระวัง”

ความกลัวหลักๆของนาย Rosalino นั้นก็คือการเข้ามาของคู่แข่ง เขากล่าวว่า “เพราะว่าถ้าเราไม่รู้ตัวตนว่าใครอยู่อีกฟากหนึ่งนั้น นอกเหนือจากความเสี่ยงด้านการยอมรับและด้านกฎหมาย และถ้ามันไม่มีความเป็นไปได้ของเว็บเทรดสกุลเงินเสมือนจริงด้วยสกุลเงินหลักที่รับรองด้วยผู้ออกกฎหมาย และธนาคารกลาง”

นาย Nasser Hakimi หรือรองหัวหน้าด้านเทคโนโลยีของธนาคารCentral Bank of the Islamic Republic of Iran กำลังแสดงความกังวล แต่ก็ยังออกมากล่าวอย่างระมัดระวังว่า “ด้วยการที่ Bitcoin และสกุลเงินอื่นๆนั้นไม่ได้ถูกรับรองโดยธนาคารกลางว่าเป็นสกุลเงินอย่างเป็นทางการ และรวมถึงความเสี่ยงในการซื้อมัน และรวมถึงกิจกรรมในการซื้อขายเหล่านี้ เราต้องการที่จะให้นักลงทุนและผู้คนมีความระมัดระวัง เนื่องมาจากความอันตรายของตลาด”

ผู้อำนวยการธนาคารแห่งออสเตรีย Ewald Nowotny เพิ่งจะออกมากล่าวเมื่อไม่นานมานี้ว่า “เรากำลังถามตัวเองอยู่ว่าทางผู้ออกกฎหมายหรือธนาคารกลางจะเข้าไปแทรกแซงได้หรือไม่ เหมือนกับที่เกิดขึ้นในประเทศจีนที่รัฐบาลออกมาแบน (การใช้งาน cryptocurrency) เพราะว่าพวกเขามองว่า [cryptocurrency] นั้นคือการหลอกลวง” ซึ่งความเห็นของเขานั้นไม่ตรงตามข้อเท็จจริง แต่ทางธนาคารก็ไม่สนแต่อย่างใด

ดอกทิวลิปและท้องหมู

นาย Dan Alpert แห่ง Westwood Capital ได้ทวีตข้อความเชิงเสียดสีว่า “มันเป็นไปได้อย่างไรที่ปี 2014 ผมถูกบอกว่าผมไม่ได้ credit default derivatives มาตอนนี้ผมถูกบอกว่าผมจะไม่ได้ Bitcoin และเหรียญคริปโตอื่นๆ แต่อย่างไรก็ตามผมได้ดอกทิวลิปของเนเธอร์แลนด์มาแทน” เขากล่าว “ถ้าใครจะใช้เหรียญคริปโตเพื่อเป็นตัวเก็บรักษามูลค่า และต้องการสภาพคล่องในรูปแบบเงินจริงสำหรับอะไรก็ตามแต่ (รวมถึงการจ่ายภาษี) คุณจะไม่มีวันรู้เลยว่าคุณจะต้องเจออะไรเมื่อคุณขาย postion ของคุณไป เหมือนกับว่าคุณตัดสินใจที่จะเก็บมูลค่าเหล่านั้นไว้ในท้องหมู”

นาย David Gledhill หรือหัวหน้าฝ่ายข่าวกรองที่ธนาคาร DBS หรือธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อ้างว่า “เรามองว่า Bitcoin นั้นเป็นแชร์ลูกโซ่” และบอกว่าค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมนั้น “มีความแพงมาก” รวมถึงกล่าวว่า “ค่าธรรมเนียมทั้งหมดนั้นถูกซ่อนไว้ในระบบ crypto ทั้งหมดแล้ว”

อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ใช้งาน Bitcoin ที่ได้ยินเรื่องราวการออกมากล่าวโจมตีเหรียญที่พวกเขารักในแต่ละวันนั้นถือเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว เมื่อก่อนหน้านี้นาย Jamie Dimon แห่งธนาคาร JP Morgan เคยออกมากล่าวอย่างรุนแรงว่า “ถ้าหากว่าคุณโง่พอที่จะซื้อ [bitcoin] คุณจะต้องชดใช้ผลกรรมนั้นสักวันหนึ่ง” และยังกล่าวว่า Bitcoin นั้นคือ “เรื่องหลอกลวง” อีกด้วย

ทว่าก่อนหน้านี้ศาลในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ได้ออกมาประกาศเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายนที่ผ่านมาว่าองค์กรผู้รับผิดชอบด้านกฎหมายทางการเงิน FINMA ได้ค้นพบว่าบริษัท JP Morgan นั้น “ละเมิดกฎหมายด้านการฟอกเงินในประเทศอย่างรุนแรง”

ภายหลังตัวแทนจาก JP Morgan ออกมากล่าวอ้างว่า “มันไม่มีอะไรที่สำคัญกับเราไปมากกว่าความปลอดภัยของระบบการเงินทั่วโลกอีกแล้ว”

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น