<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ราคาเหรียญ IOTA พุ่งทะลุจุดสูงสุดที่ 2.51 ดอลลาร์หลังจากประกาศร่วมมือกับ Microsoft

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เหรียญ IOTA ที่ได้ชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งแพลทฟอร์มด้าน Internet of Things นั้นได้มีการเพิ่มขึ้นของมูลค่าตลาดรวมกว่า 3 พันล้านดอลลาร์หลังจากที่พวกเขาออกมาประกาศว่าจะทำการร่วมมือกับบริษัทใหญ่ๆอย่าง Microsoft และ Samsung ในการพัฒนา “ตลาดซื้อขายข้อมูล”

โดยราคาของเหรียญดังกล่าวนั้นได้เริ่มพุ่งขึ้นตั้งแต่ช่วงเมื่อวานที่ผ่านมา และมีอัตราพุ่งขึ้นที่สูงกว่า 70% ในช่วง 24 ชั่วโมง อ้างอิงข้อมูลจาก Coinmarketcap โดยในขณะที่กำลังรายงานข่าวอยู่นี้ เหรียญดังกล่าวมีราคาอยู่ที่ 2.41 ดอลลาร์ มีมูลค่าตลาดรวมที่ 6.7 พันล้านดอลลาร์ และอยู๋อันดับที่ 5 ของโลก แซง Dash, Bitcoin Gold และ Litecoin มาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

การพุ่งขึ้นของราคามีขึ้นหลังจากที่ทาง IOTA Foundation หรือองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรสัญชาติเยอรมันได้ออกมาประกาศเมื่อช่วงวันอังคารที่แล้วว่าจะทำการร่วมมือกับบริษัท Microsoft, Samsung และ Fujitsu เพื่อพัฒนาระบบตลาดซื้อขายข้อมูลบน blockchain

นาย David Sonstebo หรือผู้ร่วมก่อตั้งและ CEO ของ IOTA กล่าวว่าข้อมูลนั้นจะเปรียบเสมือน “น้ำมันแห่งใหม่” และโครงการนี้จะสามารถทำให้บริษัทหลายๆบริษัทสามารถเข้ามาขายข้อมูลเพื่อให้คนอื่นๆนำมาใช้พัฒนาต่อยอดให้เกิดประโยชน์ ดีกว่าทิ้งไปให้เปล่าประโยชน์

“ในปัจจุบัน 99% ของข้อมูลที่ถูกเก็บมาได้นั้นกำลังสูญหายไป” เขาให้สัมภาษณ์กับ CNBC ผ่านอีเมล์ “IOTA จะกระตุ้นให้มีการแบ่งปันข้อมูลกันผ่านการทำธุรกรรมที่ไร้ค่าธรรมเนียม และจะสามารถทำให้แน่ใจว่าข้อมูลนั้นจะอยู่บนระบบ distributed ledger”

เขากล่าวว่าระบบตลาดนี้ยังคงอยู่ในช่วงทดสอบ และข้อมูลที่กำลังจะถูกนำมาใช้นั้นจะเป็นข้อมูลเกี่ยวกับการพยากรณ์อากาศและคุณภาพของอากาศ

IOTA ม้ามืดที่หลายๆคนมองข้ามไป

นาย Sonsterbo กล่าวว่าการพุ่งขึ้นของราคาเหรียญ IOTA นั้นเกิดขึ้นเพราะว่า Tangle ของพวกเขาสามารถจัดการแก้ไขข้อบกพร่องของเทคโนโลยี blockchain ได้ และรวมถึงการเข้าร่วมเป็นหุ้นส่วนกับบริษัทอื่นๆ

“การเติบโตของ IOTA แบบไม่มีปี่มีขลุ่ยนั้นสามารถมองกลับไปดูได้จากในอดีตที่มันเป็นเหมือนกับม้ามืด” เขากล่าว

“IOTA ได้ทำการแก้ไขปัญหาหลักๆของเทคโนโลยี Blockchain แล้ว ซึ่งก็คือค่าธรรมเนียม, การ scaling และปัญหาด้านความเป็น centralization และพวกเราได้จับมือกับหุ้นส่วนและทำโครงการกับบริษัทชั้นนำของโลกมาแล้วตั้งแต่ปี 2015”

นาย Sonstebo กล่าวว่าการเติบโตของเหรียญ IOTA นั้นหลักๆมาจากสื่อล้วนๆ ไม่ได้มาจากการทำการตลาดเลยแม้แต่น้อย

“ไม่เหมือนกับเหรียญอื่นๆที่เติบโตอย่างเวอร์ๆ เหรียญ IOTA นั้นไม่ได้ทำการตลาดที่ต้องเสียเงินอะไรเลย แต่ในตอนนี้มันก็มีผู้คนหลายๆคนเริ่มหันมาให้ความสนใจกับมัน เพราะว่าความได้เปรียบทางเทคโนโลยีของมัน”

“ผมเชื่อว่านี่คือสาเหตุที่ราคาพุ่งขึ้น รวมถึงข้อเท็จจริงที่ IOTA เพิ่งเริ่มจะเข้าตลาดจีนกับเกาหลีใต้ ซึ่งถือเป็นตลาดที่ใหญ่อยู่แล้ว ซึ่งนั่นหมายความว่าผู้คนกำลังซื้อมัน”

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น