<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

บทวิเคราะห์ IOTA ICO  ที่ระดมทุนได้ถึง 3,000 Bitcoin

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

คำเตือน: บทความนี้มีความยาวเกือบ 10 หน้ากระดาษ และมีเนื้อหาที่เต็มไปด้วยข้อมูลเชิงเทคนิค

การระดมทุน ICO ของ IOTA ระดมทุนได้ถึง 3000 bitcoin ซึงเป็นมูลค่าที่น่าตกใจ ซึ่งจากการค้นหาทางอินเตอร์เนตเราก็ได้ข้อมูลเกี่ยวกับมันว่า

Iota เป็นเงินดิจิตอลที่ไม่ได้มีพื้นฐานอยู่บน blockchain มันใช้ “Tangle” ที่พัฒนามาจากเทคโนโลยี DAG ซึ่ง blockchain ที่เรารู้จักธุรกรรมทั้งหลายจะถูกรวมอยู่ในบล็อกก่อนที่นักขุดทั้งหลายจะเข้ามาช่วยตรวจสอบธุรกรรม แต่ใน Tangle ธุรกรรมทุกๆอันจะมีบล็อคและมันจะถูกตรวจสอบโดยตัวมันเอง ซึ่งในการจะทำธุรกรรมให้สำเร็จ คุณจะต้องยืนยันการทำธุรกรรมที่ถูกสุ่มขึ้นมาสองธุรกรรมในเนตเวิร์ค ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีพื้นฐานของแนวคิด proof of work ดังนั้นอาจจะมีเสียงที่บอกว่าต้นทุนของการทำธุรกรรมนั้นไม่ได้เป็น 0 แต่ต้นทุนของการทำธุรกรรมนั้นก็แทบจะไม่มี ซึ่งมันต้องการพลังในรูปแบบ proof of work ที่น้อยมากซึ่งอุปกรณ์แทบทุกชนิดควรจะทำได้

แต่ดูเหมือนว่าสิ่งนี้ยังดูไกลตัวโดยเฉพาะอย่างยิ่งมันยังเป็นเทคโนโลยีที่ยังไม่ได้มีการทดสอบ – หรือเปล่า? เป้าหมายของ IOTA คือการเป็นสกุลเงินที่ติดตลาดของ IOT ซึ่งเติบโตอย่ามากในคนยุค millenials ที่กำลังหาซื้อที่อยู่ในทุกวันนี้ ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้คงจะถูกยอมรับได้ยากจากกลุ่มคนที่ไม่ได้โตมากับเทคโนโลยี แต่คนที่ใช้ไอพอดหรือสมาร์ทโฟนคงสนใจที่จะมีประสบการณ์กับเทคโนโลยีนี้ ซึ่งการทำธุรกรรมเหล่านี้น่าจะทำให้ชีวิตประจำวันของผู้คนดีขึ้น บางทีผู้คนอาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีส่วนช่วยยืนยันการทำธุรกรรม ซึ่งนี่เป็นตัวอย่างเพียงกรณีเดียวของ IOTA เท่านั้น มันยังมีอีกหลายอย่าง ซึ่ง IOTA เป็นแนวคิดที่ทำให้เหรียญมีมูลค่าสูงมากในปัจจุบัน ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อการระดมทุนและการเก็งกำไรในส่วนของทุน

นอกเหนือจากการเสนอขายเหรียญ ICO ตัวนี้ยังตั้งใจจะสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆด้วยเทคโนโลยีนี้ในการแก้ปัญหาในวงกว้าง จึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่า IOTA จึงได้รับการสนับสนุนอย่างล้นหลาม หรือถึงแม้ว่ามันอาจจะล้มเหลว โปรเจคนี้ก็อาจจะมีนักลงทุนบางคนที่พยายามจะกู้ชีวิตมันขึ้นมา กระนั้น ถึงแม้ว่ามันจะได้รับเงินสนับสนุนจากบริษัทเอกชนอื่นๆ แต่ดูเหมือนว่า ICO ตัวนี้จะมีศักยภาพในการที่จะสร้างรายได้หลายล้านดอลลาร์ต่อเดือน, ต่อสัปดาห์, ต่อวัน หรือแม้แต่ต่อชั่วโมงก็อาจเป็นได้ มันเป็นเรื่องยากที่จะคาดเดาว่าคุณจะสามารถทำรายได้จากระบบอัจฉริยะตัวนี้ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ คุณควรที่จะจำไว้ว่าเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าที่เพิ่งออกมาใหม่ให้คุณได้ทดลองนั้น อาจจะไม่มีค่าอะไรเลยถ้าไม่มีคนเห็นค่าของมัน

ถ้าคุณกำลังเดิมพันกับเงินดิจิตอลและคุณกำลังมองหาอะไรที่มีความผันผวนสูงและความท้าทายสูง ICO นั้นมีเทคโนโลยีสำคัญๆที่จะทำให้คุณสนใจแน่นอน เรามาดูกันดีกว่าว่า IOTA มีอะไรบ้างก่อนที่เราจะลงถึงรายละเอียด

  • IOTA เสนอคอนเซปต์ของเหรียญที่ไม่ได้มีพื้นฐานจาก blockchain ซึ่งมันแน่นอนว่าระบบนี้จะต้องมีการทดสอบความปลอดภัยเพื่อมูลค่าของเหรียญ แต่ในเมื่อเหรียญถูกระดมทุนไปแล้วก่อนที่จะเปิดตัวต่อสาธารณะ ดูเหมือนว่าความเชื่อมั่นว่ามันจะสามารถสร้างมูลค่าคืนได้มีสูงมาก
  • มันคือการปฎิวัติ (หรือตรงกันข้าม เพราะมันขึ้นอยู่กับจำนวนของเหรียญที่คุณมีอยู่ ยิ่งมากยิ่งได้เปรียบ) เนื่องจากเป้าหมายของ IOTA ต้องการจะลบค่าธรรมเนียมทิ้งไป ซึ่งเป็นเหตุผลเบื้องหลังของผู้ใช้ Bitcoin แทนที่จะขายเหรียญทั้งหมดในทีเดียว Bitcoin ทำให้ความปลอดภัยขึ้นอยู่กับผู้ใช้ ซึ่งการช่วยตรวจสอบธุรกรรมจะทำให้พวกเขาได้รางวัลไปเรื่อยๆ ซึ่งถ้าปราศจากรางวัลตรงนี้ Blockchain จะต้องถูกทำให้ปลอดภัยจากการถูกแก้ไขและเข้าถึงโดยผู้ที่ไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งมันเป็นคอนเซปที่น่าขำ กระนั้น เรื่องแบบนี้อาจต้องดูกันอีกยาว
  • หากจะเปรียบวิธีการทำงานของมันอย่างง่ายๆนั้น ให้ลองนึกถึงรถรางที่ถูกสร้างขึ้นโดยใครบางคน และผู้สร้างนั้นก็ถามคนอื่นๆว่าอยากจะเข้ามาใช้บริการส่งของผ่านรถรางนี้มั้ย ด้วยรถรางนี้ พวกเขาสามารถที่จะตรวจสอบข้อมูลผ่านระบบรถรางเวลาส่งของได้ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่, แบรนด์ที่ใช้ส่งของเช่น UPS หรือชื่อของผู้ส่งของ หรืออะไรก็แล้วแต่ โดย GPS ที่ระบุตำแหน่งของสิ่งของที่พวกเขาส่งไปนั้นสามารถที่จะตรวจสอบได้ทุกเวลาโดยใช้ระบบของรถราง โดยสิ่งที่พวกเขาต้องทำก็แค่จ่ายค่าใช้บริการให้กับเจ้าของของรถราง บางคนอาจถามว่าทำไม Bitcoin หรือ Etheruem นั้นไม่สามารถที่จะทำสิ่งเหล่านี้ได้โดยง่าย และคำตอบนั้นก็คือพวกเขาสามารถทำได้ ซึ่งคำตอบของคำถามนี้อยู่ใน whitepaper ซึ่งผู้เขียนได้กล่าวไว้ว่า “ความรุ่งเรืองและความสำเร็จของ Bitcoin ในหกปีนี้ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงคุณค่าของเทคโนโลยี Blockchain”
  • ซึ่ง IOTA นั้นแตกต่างออกไปตรงที่มันไม่ต้อง
    • มี การขุด
    • กังวลเกี่ยวกับขนาดของบล็อค
    • การขาดแรงจูงใจในการใช้งาน

แรงจูงใจสำหรับ Tangle อาจจะไม่จำเป็นก็ได้

อย่างไรก็ตามถ้าเรามองที่แรงจูงใจในรายละเอียดของ Blockchain นั้น ที่ผ่านมาธนาคารส่วนใหญ่มักจะกล่าวหาและอ้างว่าเหรียญ cryptocurrency นั้นเป็นแค่กระแสที่มาแค่แปปเดียวแล้วเดี๋ยวก็ตายจากไป  แต่เทคโนโลยี Blockchain ต่างหากที่เป็นของจริง โดยการกล่าวหาที่ผ่านๆมานั้นไม่เคยมีที่มาหรือผลงานวิจัยมาพิสูจน์มันได้เลย แต่ถ้าลองมาคิดดูแล้ว Blockchain ที่ไม่มีเงินดิจิตอลเข้ามาเกี่ยวนั้นไม่เพียงแต่จะไม่น่าสนใจและดึงดูดเท่านั้น มันยังไม่ปลอดภัยที่จะใช้งานอีกด้วย เพราะผู้คนต้องการแรงจูงใจอะไรบางอย่างในการยืนยัน Blockchain ว่ามันถูกต้อง ซึ่งเป็นแนวคิดมันตรงข้ามกับระบบเงินตราและสถาบันที่เป็นรูปแบบรวมศูนย์ เช่นตัว Bitcoin ที่จะไม่มีความน่าเชื่อถือเลยถ้าไม่ได้มีนักขุดจำนวนมากทั่วโลกเข้ามาขุดเหมืองดิจิตอลนี้ มันเป็นเรื่องที่อาจจะกล่าวได้ว่า หากคุณพูดถึงเรื่องอะไรก็แล้วแต่ที่มันมีความสำคัญนั้น อย่างน้อยมันจะต้องมีความถูกต้องและน่าเชื่อถือ มิเช่นนั้นคนอื่นๆจะขุดประเด็นเล็กๆเหล่านั้นออกมาถมเรื่องที่คุณพูด

แต่มันก็เป็นแรงจูงใจของ Bitcoin

ใน IOTA แรงจูงใจในการใช้คือคุณต้องลองใช้มันดูถึงจะรู้ศักยภาพของมัน ในสำหรับการทำธุรกรรมของคนนึงจะช่วยยืนยันการทำธุรกรรมของคนอีกมหาศาล เพราะฉะนั้นการขุดเพื่อยืนยันการทำธุรกรรมจึงถูกแทนที่ไป การเชื่อมต่อระหว่างโหนดจะส่งต่อการทำธุรกรรมแก่กัน ซึ่งมันเป็นการเก็บรูปแบบข้อมูลที่แตกต่างกัน แต่ความถูกต้องอาจจะไม่ด้อยไปกว่ากัน สิ่งที่สำคัญคือมันต้องไม่ใช้เวลาในการระบุไฟล์ที่ “ยาวที่สุด”   แต่ข้อมูลจะเชื่อมต่อกันในลักษณะของตาข่าย ซึ่งการเข้ารหัสแบบนี้หากอธิบายแล้ว มันก็ไม่ต่างกับระบบเศรษฐกิจขนาดย่อมที่ถูกขับเคลื่อนด้วยระบบดิจิตอล

ซึ่งนี่เป็นรูปแบบของ การทำธุรกรรม/เศรษฐกิจ ที่เรียกว่า กราฟอวัฏจักรระบุทิศทาง (Directed Acrylic Graphic หรือ DAG) ซึง IOTA เรียกมันว่า “tangle”

 

การทำธุรกรรมในแต่ละโหนดจะเชื่อกันเป็น “tangle” โดยเส้นที่เชื่อมจะมีลักษณะดังนี้ โดยเมื่อมีการทำธุรกรรมใหม่ มันจะต้องยืนยันการทำธุรกรรมก่อนหน้านี้สองธุรกรรม ซึ่งการยืนยันนี้จะเส้นเชื่อมจากเดียว ถ้าไม่มีเส้นเชื่อมระหว่าง A กับ B แต่ถ้ามีเส้นทางอื่นที่เชื่อมด้วยเส้นอย่างน้อยสองเส้นระหว่าง A และ B เราก็สามารถบอกว่า A นั้นยืนยัน B โดยทางอ้อม ซึ่งการทำธุรกรรมหนึ่งครั้งจะเป็นการช่วยยืนยันธุรกรรมอื่นๆทั้งหมดไม่ว่าจะทางตรงและทางอ้อม

ซึ่งที่มาของเหรียญจะเริ่มจากจะมีบัญชีที่มีเหรียญทั้งหมดอยู่ก่อนหลังจากนั้นก็จะมีการส่งเหรียญไปยังที่ต่างๆ ซึ่งเหรียญทั้งหมดได้ถูกสร้างมานั้งแต่ต้นแล้ว เพราะฉะนั้นจะไม่มีนักขุดคนใดที่ได้รับรางวัล

ถ้า Bitcoin ที่อยู่บน blockchain เป็นบัญชีที่ไม่ต้องการความเชื่อถือ IOTA tangle ก็เป็นบัญชีแบบตาข่ายที่มีไม่ต้องการความเชื่อถือ

ถึงแม้ว่าจะเป็นแนวคิดทางเทคโนโลยีจะต่างกัน แต่ก็อยู่ในวงการเดียวกันและไอเดียเดียวกัน Bitcoin มีถูกนำไปใช้กับ application หลายหลาย แต่ IOT ค่อนข้างใช้ในงานที่เฉพาะเจาะจงมากกว่า และเหรียญ IOTA นี้ไม่ได้ใช้การยืนยันธุรกรรมที่นาน ถึงแม้ว่าเงินดิจิตอลส่วนใหญ่ที่มีแนวความคิดเดียวกับ Bitcoin จะแก้ไขปัญหานี้ไปแล้วเช่น Dash ใช้ “InstantSend” ซึ่งมันมีเรื่องมากมายที่ Bitcoin ไม่สามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพและนั้นเป็นช่องว่างให้เงินดิจิตอลสกุลอื่นๆสามารถเติบโตได้

ทีมของ IOTA

สิ่งที่ทำให้คนถูกดึงดูดเข้ามาเดิมพันกับ IOTA คือทีมที่อยู่เบื๊องหลัง ซึ่งในทางทฤษฎี การดำเนินการนั้นจะต้องทำให้ดีที่สุดให้เหมาะสมกับเม็ดเงินที่ลงทุนไป ซึ่ง IOTA ก็ไม่ได้ชูโรงนักพัฒนาเข้าไปในตรงกลางหน้าเวปไซต์ของพวกเค้า เพราะเค้ารู้ว่าสิ่งสำคัญที่สุดไม่ได้อยู่ที่ว่าใครทำ แต่อยู่ที่ผลงานต่างหาก

หนึ่งในนักพัฒนาของพวกเขา Oliver Nitzschke ซึ่งโปรไฟล์ใน github ของเขามีประวั้ติที่น่าสนใจในไม่กี่ปีมานี้ เขาทำงานในโปรเจคที่หลากหลาย รวมถึงโปรเจคที่เกียวกับ mobile technology

บริษัทที่เขาทำควบคู่กันไปด้วยคือ Pinpong ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาแอนดรอยด์ และมันน่าจะทำให้แพลตฟอร์มบนมือถือของ IOTA มีบทบาทมาก ซึ่งมีธุรกิจน้อยมากที่จะเข้าถึงผู้คนได้โดยแพลตฟอร์มแค่อย่างเดียว ส่วนใหญ่แล้วจะมีมากกว่านั้น ซึ่งการมีแพลตฟอร์มอย่างสมาร์ทโฟนหรือแท็ปเล็ตจะช่วยกระจายการทำธุรกรรมอีก และไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์เฉพาะในการยืนยันเหมือนบิทคอยน์ ซึ่งเป็นข้อด้วยของบิทคอยน์

นักพัฒนาคนอื่นๆนั้นไม่ได้มีการเปิดเผยข้อมูลทั้งหมด แต่ก็มีชื่ออยู่ในผู้มีส่วนร่วมในหลายๆส่วนของโปรเจค เช่นนักพัฒนาที่มาจาก Come-from-Beyond

ซึ่งที่ผ่านๆมาการที่ ICO มีปัญหาเรื่องการเข้าถึงข้อมูลของนักพัฒนานั้นก็ไม่ได้ใหญ่มาก โดยเฉพาะในช่วงที่ ICO กำลังเป็นกระแสฟองสบู่ ซึ่งกระแสนี้ก็เป็นข้อดีสำหรับเทรดเดอที่ว่องไว ที่พร้อมจะเทขายโดยไม่ดื้อดึงเกินกว่าเหตุ แต่ IOTA ก็แสดงข้อมูลของนักพัฒนาใน Github

ผู้ร่วมก่อตั้งของ IOTA Domunik Schiener ซึ่งเป็นผู้มีส่วนร่วมเขียนเอกสารและข้อมูลเทคโนโลยี IOTA  ชายคนนี้ทำได้กีทีเดียวเมื่อกระโดดเข้ามาเขียนโค้ดและร่วมวงการเงินดิจิตอล เขาเคยสร้างระบบ Voting บนแพลตฟอร์ม Ethereum และโปรเจคอีกมากมายบน Github ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาเชี่ยวชาญในเทคโนโลยีของ IOTA การเสนอคอนเซปต์ของ เงินดิจิตอลที่ไม่ได้มีพื้นฐานของ Blockchain (blockchainless cryptocurrency) นั้นมีความน่าสนใจแน่นอนถ้าเป็นที่รู้จัก

อย่างไรก็ตามควรตระหนักไว้ว่ายังไม่มีเงินดิจิตอล ที่ถูกยอมรับจากตลาดโดยเบ็จเสร็จ ตอนนี้เงินดิจิตอลกำลังแข่งขันกันอยู่ เงินดิจิตอลส่วนใหญ่มีความสามารถมากพอที่จะเติบโตทั้งด้านมูลค่า การใช้งาน ความถูกต้องในระยะเวลาสั้นๆ

สรุป

แล้วคุณอยากเสี่ยงกับมันมั้ย การลงทุนกับเทคโนโลยีที่ใหม่ล่าสุด และแน่นอนยังไม่ได้ถูกทดสอบ ในขณะที่ Bitcoin ทำได้แล้ว มันยังเป็นแค่การคาดการณ์ว่ามันน่าจะใช้ได้ มันเป็นการเดิมพันก้อนโต แต่รางวัลก็มากไปตามกัน

ในขณะเดียวกันในมุมมองของ Bitcoin มันได้เห็นเงินดิจิตอลสกุลอื่นๆนั้นออกมาโลดเเล่น IOTA ก็อาจจะเจอสภาพเดียวกันที่มีคู่แข่งในไอเดียเดียวกัน ปรับแต่งไอเดีย หรืออาจะพัฒนาให้ดีขึ้น คอนเซปต์ของ Tangle อาจจะใช้ได้ แต่มันอาจจะถูกนำไปใช้โดยผู้อื่น ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีชของผู้ที่อยู่รอด ซึ่งเกิดขึ้นในเทคโนโลยีที่กำลังตั้งไข่ ผู้คนอาจจะอรู้สึกว่า Tangle เป็นนวัตกรรมที่ดีและนำมันไปใช้ในทางอื่น ซึ่งเป็นความเสี่ยงของ บริษัท ที่ดำเนินการในลักษณะกึ่งกรรมสิทธิ์

ไม่ว่าคุณอยากลงขันนวัตกรรมนี้หรือไม่ ทางผู้เขียนไม่ขอออกความเห็นใดๆ แต่คิดว่าน่าจะมีโอกาส 7/10 ที่คุณจะสามารถสร้างรายได้คืนมาจากเหรียญและหวังว่าจะทำกำไรให้คุณ การเข้าไปร่วมก่อนในการทำธุรกรรมแบบใหม่น่าจะคุ้มค่า และได้ส่วนแบ่งที่น่าพอใจ ซึ่งแน่นอนว่าไม่ว่าใครที่เข้ามาร่วมวงการเงินดิจิตอลซึ่งรวมถึงผู้เขียนด้วยขอบอกเลยว่ามันยอดมาก

ข้อมูลการลุงทุน

IOTA เริ่มให้มีการซื้อขายได้ตั้งแต่วันอังคารที่ผ่านมาในเวลา 1 PM UTC โดยข้อมูลจาก Bitifionex บอกว่ามันหาที่เงินดิจิตอลที่กำลังตั้งไข่แบบนี้ได้ยาก

มีปัจจัยหลายประการที่เราพิจารณาเพิ่มการซื้อขาย IOTA กับ Bitfinex เช่น ความต้องการจากผู้ซื้อ มูลค่าการตลาด การออกแบบ และการประเมินอย่างละเอียดเกี่ยวกับกระบวนการพัฒนาเหรียญ รวมถึงทีมพัฒนา แผนการแก้ไขปัญหาทั่วไปและทางเทคนิค การแก้ไขเรื่อง scaling ที่เป็นปัญหาของ Blockchain แบบเดิมๆ ซึ่ง Bitfinex มีนักเทรดมากมายที่หัวงจะทำกำไรก้อนโตจากมัน ทำให้อาทิตย์ที่ผ่านมานั้น IOTA ได้รับความสนใจมาก