<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Blockchain ที่แก้ไขได้? อนาคตของการขุดเหรียญ? ปี 2017 สิทธิบัตรของ Cryptocurrency เกิดขึ้นเยอะแยะมากมาย

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

12 เดือนที่ผ่านมาเราได้เห็นการยื่นขอจดสิทธิบัตรหลายฉบับที่เน้นการใช้งาน Cryptocurrency หรือเทคโนโลยี Blockchain รวมถึงบริษัทที่มีชื่อเสียงอย่างเช่นธนาคารยักษ์ใหญ่นาม Bank of America และ บริษัท FICO

ผลสรุปของการยื่นขอรับสิทธิบัตรในปีที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่าธุรกิจสำคัญๆ เหล่านี้กำลังจริงจังว่าเทคโนโลยี Blockchain นี้สามารถเปลี่ยนแปลงวิธีการดำเนินงานในภาคธุรกิจเอกชนของพวกเขาได้หรืออย่างน้อยที่สุดก็ถือเป็นการจับจองสิทธิบัตรทรัพย์สินทางปัญญาใหม่ๆ

หากพิจารณาถึงการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี Blockchain จากปีที่ผ่านมาเราจะเห็นได้ว่ามีการโต้เถียงเรื่องนี้กันไปมาเพื่อให้ Bank of America ได้นำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ในบริการแลกเปลี่ยน Cryptocurrency ของเขาเอง

ผู้ให้บริการแลกเปลี่ยน BofA?

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2014 ธนาคารแห่งงสหรัฐอเมริกาได้เสนอสิทธิบัตรเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยน Cryptocurrency ที่จะทำให้ผู้ใช้สามารถแลกเปลี่ยนสกุลเงินที่รัฐบาลออกให้เป็นสกุลเงิน Crypto ได้ และจากรายละเอียดในเอกสารนั้น ผู้ใช้บริการสามารถย้าย Cryptocurrency ของตัวเองไปยังที่อื่นได้ด้วย

ถึงแม้ว่าทาง Bank of America จะยังไม่ไม่มีบริการแลกเปลี่ยน Cryptocurrency ของตนเองเร็วๆ แต่ในปี้นี้แสดงให้เห็นถึงว่า Application ได้ถูกนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์ทางด้านการเงินมากขึน

ในอนาคตนั้นเราหวังว่า Cryptocurrency จะถูกใช้ในวงกว้าง และแนวคิดที่ว่าธนาคารทั่วๆ ไปจะสามารถให้บริการเก็บและย้ายเงินดิจิตอลสกุลหนึ่งไปยังอีกสกุลหนึ่งนั้น คงอาจจะไม่ใกลเกินเอื้อม

Blockchain ที่สามารถแก้ไขได้?

แนวคิดก็คือให้บุคคลที่ได้รับอนุญาตให้ทำบัญชีแยกประเภท (Ledger) สามารถเปลี่ยนแปลงข้อมูลที่ถูกเพิ่มเติมได้ภายใต้เงื่อนไขบางอย่าง โดยที่ข้อมูลที่ถูกเพิ่มนั้น อาจมีการเปลี่ยนแปลงหรือถูกฉ้อโกงได้ บุคคลที่ได้รับอนุญาตนี้จะต้องรักษาความถูกต้องจากฝ่ายที่ไม่เป็นผู้ไม่ประสงค์ดีและธุรกรรมที่ไม่ถูกต้องของพวกเขา

ในท้ายที่สุดนี้่สิทธิบัตรของ Blockchain ที่แก้ไขได้อาจแสดงให้เห็นถึงมุมมองที่แตกต่างกันในอุตสาหกรรม Blockchain ในปัจจุบัน

การจับตาของ FICO SCORE

FICO SCORE หนึ่งในผู้ให้บริการตรวจจับการใช้งาน Credit Card ที่ใหญ่ที่สุดกำลังเข้าสู่เกมของ Bitcoin หรือไม่

นี่เป็นหนึ่งในคำถามที่ได้รับความสนใจ โดยสืบเนื่องมาจากคำขอรับสิทธิบัตรจาก FICO ที่ตีพิมพ์ในเดือนกันยายน ที่ระบุถึงวิธีการในการตรวจจับการทำธุรกรรม Cryptocurrency “ที่ผิดกฏหมาย” โดยเขาอ้างว่ามีวิธีในการพิจารณาว่าการใช้ Cryptocurrency เป็นสิ่งที่หลอกลวงหรือเป็นส่วนหนึ่งของการฟอกเงิน

แม้ว่าจะยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า FICO ได้เริ่มติดตามข้อมูลการซื้อขาย Bitcoin แล้วหรือไม่ก็ตาม แต่สิ่งนี้ก็แสดงให้เห็นว่า กลุ่มสถาบันการเงินหลักที่อยู่ภายนอกธนาคาร นายหน้าหรือนักลงทุน กำลังสำรวจว่าเทคโนโลยี Blockchain นี้อาจส่งผลกระทบต่อพวกเขา

ห่วงโซ่ ATM?

อีกหนึ่งกรณีที่น่าสนใจในปีนี้ก็คือผู้ให้บริการบัตรชำระเงิน China Union Pay กำลัง มองหาวิธีการเชื่อมต่อเครือข่ายเอทีเอ็มผ่านทาง Blockchain อยู่

ทางบริษัทยังไม่ได้ระบุว่าได้นำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ร่วมกับ ATM หรือยังแต่ China UnionPay ตั้งข้อสังเกตว่าระบบ Blockchain จะให้การรักษาความปลอดภัยได้หรือไม่ และเทคโนโลยีนี้จะสามารถแก้ปัญหาของเครือข่ายนี้ได้หรือไม่

การเทรดสกุลเงิน

หรือว่า “ตัวพ่อของอนาคตทางการเงิน” กำลังเข้าสู่ Crypto

ศักยภาพดังกล่าวได้ถูกยกขึ้นในการยื่นขอจดสิทธิบัตรสำหรับอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ที่ช่วยให้สามารถซื้อขายสกุลเงินดิจิตอลได้ โดยคนที่ยื่นจดนี้ก็คือนักเศรษฐศาสตร์นาย Richard Sandor ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้บุกเบิกผลิตภัณฑ์ทางการเงินในปี 1970 นาย Richard Sandor เป็นอดีตหัวหน้าฝ่ายเศรษฐศาสตร์และรองประธานของ Chicago Board of Trade

อุปกรณ์ดังกล่าวได้ถูกอธิบายว่าจะสามารถผูกสกุลเงินดิจิตอลกับตราสารอนุพันธ์ได้ เพื่อให้มั่นใจถึงความปลอดภัยโดยการวาง Registry ไว้ในที่ที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ อย่างไรก็ตาม Registry นี้จะทำหน้าที่เป็นกลไกสำหรับส่งข้อมูลของ Cryptocurrency

ดังนั้นอุปกรณ์ที่เสนอเช่นนี้ (หรือสิ่งที่คล้ายคลึงกัน) อาจมีบทบาทสำคัญในการช่วยการแลกเปลี่ยนเพื่อให้เป็น “สิ่งของ” ที่สามารถส่งสิ่งของในรูปแบบดิจตอลได้

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น