นายกรัฐมนตรีอังกฤษ Theresa May ได้ประกาศว่าคณะรัฐบาลของเธอจะทำการศึกษารายละเอียดเรื่องการใช้ cryptocurrencies เช่น bitcoin หลังเกิดความกังวลว่ามันจะถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดโดยพวกอาชญากร
สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่าในระหว่างช่วงการประชุมทางเศรษฐกิจโลกในงาน World Economic Forum ที่จัดขึ้นในเมืองเดวอสประเทศสวิสเซอร์แลนด์ นายกฯ Theresa May ได้ให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg ถึงความเป็นไปได้ในการสร้างมาตรการ ‘ควบคุมปราบปราม’ บริษัทด้านเทคโนโลยีอย่าง Facebook และ Google เนื่องด้วยความล้มเหลวในด้าน “ความรับผิดชอบต่อสังคม” ของตน คณะรัฐมนตรีของเธอได้ร่วมงานกับบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีในประเด็นปัญหาเช่น ‘สื่อลามกอนาจารผู้เยาว์บนอินเทอร์เน็ต [และ] การใช้อินเทอร์เน็ตในวิธีอันรุนแรงสุดโต่ง รวมถึงในวิธีที่เข้าข่ายก่อการร้าย” May ยังได้เน้นย้ำว่ายังคงมี “สิ่งที่ต้องสะสางอีกมากมาย” ว่าด้วยปัญหาด้านเทคโนโลยี
หลังจากนั้นต่อมา นาย John Micklethwait หัวหน้าบรรณาธิการของ Bloomberg ได้ยกประเด็นเรื่อง cryptocurrencies ขึ้นมา “ดูจากชื่อของมันแล้วก็น่าจะตีความได้” Micklethwait กล่าวพาดพิงถึง Bitcoin ว่า “มันถูกสร้างขึ้นมา ส่วนหนึ่งก็เพื่อที่จะซ่อนเงินที่มักถูกใช้ในกระบวนการที่คุณเพิ่งได้อธิบายไป”
หัวหน้าบรรณาธิการของ Bloomberg กล่าวต่อว่า “งั้นสิ่งเหล่านี้ก็เป็นสิ่งที่คุณควรควบคุมปราบปรามด้วยล่ะสิ?”
คำถามนี้มีโอกาสสูงที่จะทำให้มีหัวข้อข่าวที่บิดเบือนถูกเขียนขึ้นมาได้ ว่า “เกิดการปราบปราม” ตลาดการซื้อขาย cryptocurrency และระบบนิเวศของมันภายในประเทศนำโดยรัฐบาลขึ้นมา นาง May ได้ตอบกลับว่า:
“สำหรับประเด็นเรื่อง cryptocurrencies เช่น Bitcoin เราควรที่จะศึกษารายละเอียดอย่างจริงจังที่สุด เพราะแน่นอน พวกมันสามารถถูกนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์หลากหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งโดยพวกกลุ่มอาชญากร”
นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรไม่ได้เปิดเผยถึงนโยบายเฉพาะเจาะจงใดๆ เกี่ยวกับวิธีที่รัฐบาลอาจทำการศึกษารายละเอียดเรื่องการซื้อขาย หรือการใช้งาน Cryptocurrency
ในเดือนสิงหาคม ช่วงปี 2014 อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง George Osborne ได้ซื้อ Bitcoin เป็นครั้งแรก ผ่านตู้ ATM ของ Cointrader โดยนาย Osborne ได้กล่าวว่าเขามีเจตนารมณ์ที่จะศึกษาสำรวจศักยภาพในเงินสกุลดิจิตอล เพื่อเป็นก้าวหนึ่งในการเสริมสร้างให้อุตสาหกรรม FinTech ในประเทศ ‘เติบโตและประสบความสำเร็จ’ และ ‘เพื่อทำให้สหราชอาณาจักรเป็นศูนย์กลางทางการเงินของโลก’ ให้ได้
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น