หนึ่งในผู้ให้บริการโอนเงินและให้บริการ Forex ที่ใหญ่ที่สุดในตะวันออกกลางได้ลงนามข้อตกลงกับบริษัทด้าน Fintech ยักษ์ใหญ่นาม Ripple เพื่อให้สามารถใช้เทคโนโลยี Blockchain ในการชำระเงินข้ามพรมแดนแบบเรียลไทม์
ด้วย 31 ประเทศที่มีอยู่นั้น UAE Exchange เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการโอนเงินระหว่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคและล่าสุดก็กลายเป็นผู้ให้บริการการชำระเงินที่ร่วมมือกับบริษัท Ripple
การร่วมมือกันนี้เราจะได้เห็น UAE Exchange เข้าร่วมกับ RippleNet ซึ่งเป็นองค์กรที่ใช้เครือข่าย Blockchain ซึ่งมีสมาชิกมากกว่า 100 รายเช่นธนาคารและสถาบันการเงิน โดยใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทดแทนการใช้ระบบ SWIFT และมาใช้ Ripple แทน เพื่อมาใช้ในการหักบัญชีและการชำระบัญชีระหว่างประเทศแบบเรียลไทม์ RippleNet ไม่เหมือนกับบัญชีแยกประเภทของ Ripple ที่คนส่วนใหญ่คิดกัน และก็ไม่ได้ใช้ Token XRP ของ Ripple ด้วย
CEO ของ UAE Exchange นาย Promoth Manghat กล่าวถึงความสำคัญในการใช้เทคโนโลยีแบบ Decentralised โดยระบุว่า:
“การนำเทคโนโลยีนี้มาใช้ มันสามารถพลิกเกมได้เลย เพราะเราสามารถเสนอบริการที่สามารถแข่งขันกันได้ และเนื่องจากมันสามารถส่งผลต่อความเร็วและต้นทุนในการทำธุรกรรมข้ามพรมแดน พวกเราภูมิใจที่จะส่งต่ออนาคตของการชำระเงินด้วย Ripple”
ด้วยการดำเนินการของ Ripple พวกเขาเชื่อว่าบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศจะสามารถอำนวยความสะดวกในการชำระเงินรายย่อยระหว่างประเทศได้ทันที ที่มีอัตราการแข่งขันด้าน ราคา, ความเร็ว, ความโปร่งใสและประสิทธิภาพ และธนาคารแห่งชาติของอาบูดาบีซึ่งเป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดของเอมิเรตก็ได้เปิดตัวเทคโนโลยี Blockchain ของระบบการชำระเงินข้ามพรมแดน และด้วยการที่กลุ่มผู้อพยพจำนวนมากที่ย้ายไปอยู่ในภูมิภาคนี้จึงทำให้สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นเส้นทางการโอนเงินที่เยอะที่สุดในโลก
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น