Lightning Network ได้ถูกประกาศว่าพร้อมจะเปิดตัวบน Mainnet อย่างเป็นทางการแล้ว หลังจากที่ทาง Lightning Labs เพิ่งได้เปิดตัว open-source software เวอร์ชั่น Beta เป็นครั้งแรก ซึ่งได้รับการติดตามอย่างใกล้ชิดจากผู้คนต่าง ๆ ในวงการ
Lightning Network เปิดตัว software รุ่น Beta
บริษัท Lightning Labs จากซานฟรานซิสโกได้ประกาศในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมานี้ว่า พวกเขาได้เปิดตัว lnd 0.4-beta ซึ่งเป็นการเปิดตัวซอฟท์แวร์ครั้งใหญ่เป็นครั้งที่สี่ และเป็นรุ่นแรกที่เป็นเวอร์ชั่น beta
นี่ถือเป็นจุดหัวเลี้ยวหัวต่อสำหรับการพัฒนา Bitcoin เพราะนี่จะทำให้การชำระ Bitcoin จากช่องทาง Blockchain เดิมสามารถถูกเคลื่อนย้ายมายัง Lightning Network ได้ ซึ่ง LN เป็นเทคโนโลยีที่ดำรงอยู่เป็น “ชั้นที่สอง” (second-layer) เหนือ Bitcoin ซึ่งนี่ก็จะทำให้ผู้ใช้สามารถชำระเงินได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมใด ๆ ทั้งสิ้น (ด้วยการทำธุรกรรมนอก Blockchain ของ Bitcoin)
นาง Elizabeth Stark ผู้เป็น CEO ของ Lightning Labs ได้อธิบายในบทสัมภาษณ์กับ CNBC ว่า:
“ถ้า Bitcoin นั้นถือว่าเป็นบัญชีออมทรัพย์แบบ Decentralized แล้ว ทาง Lightning ก็จะเป็นบัญชีกระแสรายวันแบบ Decentralized ที่ทางผู้ใช้จะสามารถส่งเงินได้โดยทันที”
ผู้ที่สนับสนุน Lightning Network นั้นยังเชื่อว่าหลังจากที่เทคโนโลยีตัวนี้ได้ถูกรวมเข้าไปบนเครือข่าย Cryptocurrency อื่น ๆ แล้ว ผู้ใช้ LN ก็ยังสามารถที่จะทำการเทรดข้าม Blockchain [cross-blockchain] เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมที่สูง (หรือที่เรียกกันว่า “atomic swaps”) ซึ่งนี่เป็นก้าวสำคัญสำหรับการพัฒนา Decentralized Exchanges (DEX)
Lightning Network ได้รับการใช้งานมากขึ้นเรื่อย ๆ
แม้ว่า lnd 0.4-beta จะเป็นการจัดเตรียม LN ที่ถูกระบุว่า “พร้อมใช้แบบ Mainnet” เป็นครั้งแรก แต่ทางผู้ที่สนับสนุนระบบนี้ก็ต่างได้ใช้ซอฟท์แวร์ตัวนี้มากันสักระยะหนึ่งแล้ว
มีรายงานว่า Lightning Network มีผู้ใช้งานถึง 1,000 Nodes แล้ว แม้ทางตัวเครือข่ายจะมีเนื้อที่เพียง 4.5 BTC เท่านั้นในขณะนี้
ทาง Lightning Labs ได้ร้องขอให้ผู้ใช้หลีกเลี่ยงการนำเงินมาลงทุนภายในช่องทางการชำระเงินของ LN มากเกินไปสำหรับช่วงระยะสั้นนี้ เพราะทางตัวซอฟท์แวร์อาจยังมี bug ที่สามารถก่อให้เกิดการสูญเสียเงินเหล่านี้ได้
นอกจากนี้แล้ว ในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ทาง Lightning Labs ได้ประกาศว่าพวกเขาได้สิ้นสุดการระดมทุนด้วยจำนวนเงินกว่า 2.5 ล้านดอลลาร์ ซึ่งมีนักลงทุน high-profile จาก Silicon Valley บางรายด้วย เช่นนาย Jack Dorsey ผู้เป็น CEO ของ Twitter, นาย Vlad Tenev ผู้ร่วมก่อตั้ง Robinhood (เว็บเทรดหุ้นรวมถึงเงินคริปโต) และก็นาย David Sacks อดีตประธานฝ่ายปฎิบัติการ (COO) ของ Paypal
ภาพจาก Shutterstock
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น