<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ธนาคารกลางประเทศลิทัวเนียตื่นตัว “การเมินเฉยต่อคริปโต ไม่ได้พาเราไปไหน”

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ธนาคารกลางแห่งประเทศลิทัวเนียได้ออกมาจัดการประชุมเพื่อพูดคุยถึงนโยบายและกฎหมายกับ บริษัทด้านคริปโต, ธนาคารพาณิชย์ และชุมชนคริปโตภายในประเทศ

“การเมินเฉย และไม่ทำความเข้าใจเกี่ยวกับคริปโตนั้นไม่ได้พาเราไปไหนเลย” กล่าวโดยผู้ประสานงานด้าน Fintech ในงานประชุมที่วิลนีอุส

“โปรเจค ICO ของประเทศลิทัวเนียนั้นมีมูลค่าเป็น 10 เปอร์เซ็นต์จากทั้งหมด ในปีที่ผ่านมา” กล่าวโดยชุมชนคริปโตท้องถิ่น

ในปัจจุบันธนาคารกลางแห่งประเทศลิทัวเนียได้ใช้มาตราการการควบคุมแบบเก่า ๆ กับ ICO ซึ่งพวกเขาเห็นว่าควรแยกคริปโตพวกนี้เป็นสินทรัพย์อีกประเภทให้ชัดเจน เพื่อให้แตกต่างกับผลิตพัณฑ์ทางการเงินแบบเดิม

ธนาคารยังตั้งใจที่จะทำให้ประเทศลุทัวเนียเป็นศูนย์ Fintech ในยุโรปตอนเหนือและรวมถึงมีแผนที่จะออกใบรับรองสำหรับธุรกิจเกี่ยวกับคริปโตที่จะทำให้ชาวต่างชาติสามารถมาขอทำใบรับรองได้อีกด้วย ซึ่งจะเป็นตัวขับเคลื่อนให้ประเทศของพวกเขาเข้าใกล้เป้าหมายดังกล่าวมากขึ้น

นาย Vitautas Kasheta หัวหน้าสมาคมคริปโต ซึ่งเป็นผู้เข้าร่วมการประชุมกล่าว :

“บริษัท หรือ Startup เกี่ยวกับคริปโตนั้นเผชิญปัญหามากมายเมื่อพวกเขาต้องการบริการจากธนาคารพาณิชย์ เนื่องจากธนาคารพาณิชย์ไม่เข้าใจธรรมชาติของคริปโต และมองว่าเป็นธุรกิจที่มีความเสี่ยง ส่งผลให้ธนาคารดังกล่าวปฎิเสธที่จะเปิดบัญชีให้กับบริษัท หรือ Startup เหล่านี้บ่อยครั้งไป”

นาย Mantas Zalatorius ประธานสมาคมธนาคารแห่งประเทศลิทัวเนียกล่าว :

“การพูดคุยกันนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก เพราะว่าพวกเราจะได้รู้ว่าโมเดลธุรกิจของแต่ละคนทำงานอย่างไร และเข้าใจมัน”

“และแน่นอนว่า การคุ้มครองผู้บริโภค, การป้องกันการฟอกเงิน, การออกมาตราการป้องการคุกคามด้านการเงิน นั้นเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด”

“ธนาคารพาณิชย์นั้นจะให้บริการแก่บริษัทที่สามารถพิสูจน์ได้ว่า เงินของพวกเขามาจากไหน ซึ่งส่วนใหญ่ทำไม่ได้”

วงการคริปโตนั้นเติบโต และได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในประเทศลิทัวเนีย อ้างอิงจาก Mediaskopas ภายใน 3 เดือนแรกของปี 2018  มีสื่อในประเทศได้เขียนบทความเกี่ยวกับคริปโตไปแล้วเป็นจำนวนกว่า 1,400 บทความ ซึ่งถ้าเทียบกับปีก่อนในเวลาเดียวกันนั้นจะมีเพียงแค่ 22 บทความเท่านั้น

นาย Egle Nyameikshtite ผู้ดำรงตำแหน่งหัวข้อของ Blockchain Center ในวิลนีอุส กล่าวว่า:

“ตอนนี้ประเทศลิทัวเนียนั้นเป็นจุดเด่นเป็นอย่างมากภายในวงการ ICO”

“มูลค่าการลงทุนโปรเจค ICO ของประเทศลิทัวเนียนั้นคิดเป็น 10 เปอร์เซ็นต์ของทั้งโลก นั้นทำให้เห็นว่าเราเป็นรองแค่ประเทศสหรัฐอเมริกาและจีนเท่านั้น”

และในปัจจุบัน Cryptocurrency ได้ค่อย ๆ เข้ามามีบทบาทกับประชาชนประเทศลิทัวเนียอย่างช้า ๆ แล้วในรูปแบบของช่องทางการชำระเงิน ร้าน United Colors of Bennetton สาขาลิทัวเนีย ซึ่งเป็นร้านแฟชั่นระดับโลกของชาว ประกาศว่าพวกเขาได้จับมือกับบริษัทคริปโตนามว่า Coppay และได้ทำการเปิดรับคริปโตเป็นช่องทางการชำระเงินเรียบร้อยแล้วอีกด้วย ซึ่งจะรับเหรียญคริปโต Bitcoin, NEM, Dash, Ethereum และ Steem

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น