<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

เหมือนหลุดมาจากหนัง ชายหลบหนีข้ามประเทศหลังขโมยเครื่องขุด Bitcoin

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ตำรวจอัมสเตอร์ดัมได้เข้าจับกุมนาย Sindri Thor Stefansson อีกครั้ง ซึ่งจริง ๆ แล้ว เขาได้ถูกจับจุมไปไม่กี่วันก่อนที่ประเทศไอซ์แลนด์ เนื่องจากมีส่วนเกี่ยวข้องในการขโมยอุปกรณ์ขุดคริปโตเป็นจำนวนกว่า 600 ริค หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 2 ล้านดอลลาร์

 

ดูเหมือนว่าการหลบหนีของเขาเหมือนหลุดออกมาจากหนังเจมส์บอนด์เท่าไรนัก โดยหลังจากที่เขาถูกจับกุมรอบแรก เขาได้ทำการหลบหนี ออกมาได้สำเร็จ ก่อนที่ซื้อตั๋วและขึ้นเครื่องไปยังต่างประเทศ และยังได้ไปในสายการบินที่มีประธานธิปดีของประเทศไอซ์แลนด์นั่งอยู่ด้วย

เหมือนหลุดออกมาจากหนัง

หลังจากที่เขาถูกจับกุมอีกครั้ง นาย Stefansson ได้เขียนลงไปในอินเตอร์เน็ตว่า :

“ผมปฎิเสธที่จะเข้าไปอยู่ในคุกด้วยความตั้งใจของผมเอง”

“โดยเฉพาะ เมื่อตอนที่ตำรวจข่มขู่ที่จะเข้าจับกุมผมโดยที่ไม่มีคำอธิบายอะไร ผมไม่ได้บอกว่าการหลบหนีเป็นการตัดสินใจที่ถูก ผมเสียใจเป็นอย่างมาก….ผมไม่คิดว่าจะมีการจับกุมข้ามประเทศเกิดขึ้น โดยทางกฎหมายแล้วผมมีสิทธิที่จะออกมา และผมไม่คาดคิดว่าพวกเขาจะคิดว่าผมเป็นผู้ร้ายหลบหนี ผมจะไม่มีทางทำสิ่งเหล่านี้เลย ถ้าผมไม่คิดว่าผมบริสุทธิ์ ”

สื่อกล่าวอ้างว่านาย Stefansson เป็นผู้วางแผนในการโจรกรรม เขามีส่วนเกี่ยวข้องในการขโมยครั้งนี้ ซึ่งมีอุปกรณ์ ขุด Bitcoin สูญหายไปเป็นมูลค่ากว่า 2 ล้านดอลลาร์ เชื่อว่ามีผู้ก่อเหตุทั้งหมด 11 คน รวมถึงภรรยาของเขาด้วย

นาย Stefansson หลบหนีจากคุกนาม Sogn ซึ่งเป็นคุกแบบเปิด โดยอ้างอิงจากคนท้องถิ่น มันเป็นคุกที่มีความปลอดภัยต่ำมาก คุกดังกล่าวอยู่ห่างจากสนามบินประมาณ 59 ไมล์ หรือประมาณ 95 กิโลเมตร มันเป็นคุกแบบเปิดขนาดที่ว่าไม่มีรั้วกั้น และผู้ที่ถูกขังสามารถเล่นอินเตอร์เน็ทได้ด้วยซ้ำ

เขาหลบหนีผ่านกระจก, ตะเกียกตะกายไปถึงสนามบินแบบทุลักทุเล,ซื้อตั๋วเครื่องบินด้วยนามสมมุติ ซึ่งเขาจ่ายด้วยบัตรเดบิตที่มีชื่อเขา และได้ขึ้นเครื่องบินเที่ยวบินเดียวกับนาง Katrín Jakobsdóttir ประธานนาธิปดีประเทศไอซ์แลนด์

การโจรกรรมที่เกิดขึ้นนั้น มีอุปกรณ์ขุด Bitcoin ที่สูญหายไปจากห้องเซิฟเวอร์ (Data Center) ถึง 4 ห้อง ไม่แปลกใจที่ใคร ๆ ต่างก็อยากมาขุด Bitcoin ที่ประเทศไอซ์แลนด์ เนื่องจากค่าไฟที่ถูกและอากาศหนาวที่สามารถดับความร้อนของเครื่องขุดได้

นาย Stefansson ได้เขียนลงสู่สาธารณะ ในขณะที่ทำการหลบหนีว่าเขาสามารถสามารถจะหลบหนีเจ้าหน้าที่ “นานเท่าไรก็ได้ตามที่เขาต้องการ” แต่ดูเหมือนตำรวจประเทศดัตซ์จะไม่เห็นด้วย พวกเขาได้ทำการเข้าจับกุมนาย Stefansson ที่ตัวเมืองโดยไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรงอะไรเกิดขึ้นในขณะจับกุม และในตอนนี้กำลังส่งตัวเขากลับประเทศไอซ์แลนด์

เหตุการณ์ดังกล่าวจะไม่ลุกลามมาขนาดนี้ ถ้าเกิดความเข้มงวดในการจับกุม และกักขังในประเทศไอซ์แลนด์นั้นมีมากกว่านี้ ยิ่งของที่มีมูลค่ามากเท่าไร ยิ่งต้องระวังให้มากเท่านั้น การดูแลอุปกรณ์ดังกล่าวด้วยตัวเราเองอาจจะเป็นการดีที่สุดก็ได้ อย่างไรก็ตามเรื่องดังกล่าวจบลงด้วยดีและไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ และทุกฝ่ายก็ได้รับบทเรียนในครั้งนี้

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น