ในปัจจุบันนักอ่านหลายท่านคงทราบกันดีแล้วว่า คริปโตเคอร์เรนซี่และสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทยนั้นถูกกฎหมายเรียบร้อยแล้ว อ้างอิงจากพ.ร.ก. ฉบับที่ 19 ซึ่งทางสยาม บล็อกเชนเคยรายงานไปแล้วก่อนหน้านี้ทั้งในเรื่องของภาษีที่ตามมา และบทวิเคราะห์ว่าพ.ร.ก ธุรกิจทรัพย์สินดิจิทัลนั้นจะส่งผลอย่างไรบ้าง
อ้างอิงจากรายงานที่สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย ตีพิมพ์ในวันที่ 24 พฤษภาคมปี 2018 นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. กล่าวในงานสัมมนาว่า ธปท. ต้องเข้ากำกับดูแลคริปโตเคอร์เรนซี่และฟินเทคเพื่อรักษาเสถียรภาพทางการเงินในประเทศ
นาย วิรไท กล่าวในงานสัมมนา Symposium Thailand 4.0 “Fintech & Cryptocurrency vs. Law Enforcement” ว่า:
“คริปโตเคอร์เรนซี่นั้นมีจะทำให้ระบบการเงินกระจัดกระจาย ทำให้ดูแลยากขึ้น”
ซึ่งหากยังปล่อยไว้ และไม่อัปเดทกฎหมายมากำกับดูแลให้ทันท่วงทีนั้น การดูแลเสถียรภาพทางการเงินในประเทศจะมีความยากลำบากมากขึ้น
เขายังย้ำด้วยว่า มีมิจฉาชีพแฝงตัวมาในอุตสาหกรรมคริปโตและ Blockchain เป็นจำนวนมาก ซึ่งกฎหมายสำหรับการกำกับดูแลนั้นเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อป้องกันนักลงทุนและผู้บริโภคภายในประเทศจากมิจฉาชีพ เขาอธิบายเพิ่มเติมว่า:
“ต้องคุมหลายมิติ ทั้งเสถียรภาพทางการเงิน ถือเป็นเส้นเลือดใหญ่ของระบบเศรษฐกิจ และการให้ความคุ้มครองผู้ใช้บริการ รวมถึงการฟอกเงิน นอกจากนี้มีเรื่องการคุมอัตราแลกเปลี่ยน ฐานภาษี ความปลอดภัยทางไซเบอร์ การเชื่อมโยงการบริการ และรักษาระบบการเงิน”
ที่มา Royal Thai Embassy
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น