ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กำลังมองหาเทคโนโลยี Blockchain ระบบการชำระเงินและเบิกจ่ายเงินระหว่างธนาคาร
ในการพูดปราศรัยที่สิงคโปร์ในวันพุธที่ผ่านมา นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยระบุว่า การพัฒนาสกุลเงินดิจิทัลในประเทศสำหรับร้านค้ารายย่อยกำลังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนา และกำลังทอดลองที่จะนำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้งานในหลาย ๆ ภาคส่วนของรัฐ
โดยเหรียญสกุลดิจิทัลของธนาคารแห่งประเทศไทยนี้มีชื่อว่าอินทนนท์ โดยสกุลเงินนี้จะมีลักษณะเป็น Wholesale Central Bank Digital Currencies หรือ CBDC ซึ่งจะใช้เพื่อทำการทำธุรกรรมระหว่างแบงก์ชาติและธนาคารพาณิชย์ หรืออินเตอร์แบงก์ได้อย่างรวดเร็วและมีค่าธรรมเนียมที่ถูกกว่าปกติ
เป้าหมายแรกของการทดลองนี้คือการทำความเข้าใจถึงศักยภาพของเทคโนโลยีนี้ ก่อนที่จะนำ CBDC ไปใช้ในชีวิตจริงในปริมาณที่มากขึ้น
เขากล่าวในงานว่า:
“เป้าหมายของเราคือ สามารถที่จะนำ CBDC ไปใช้งานได้ทันที และเพื่อการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพในองค์กร การทำธุรกรรมและการตรวจสอบความถูกต้องต้องมีความรวดเร็วและมีราคาที่ประหยุด เนื่องจากไม่มีตัวกลางเข้ามายุ่งเกี่ยวแล้ว”
เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคมที่ผ่านมาทางสยามบล็อกเชนรายงานข่าวที่ว่า ทางธนาคารแห่งประเทศไทยกล่าวว่า “คริปโตและฟินเทคต้องมีการกำกับเพื่อป้องกันเสถียรภาพทางการเงิน” โดยเขาได้ได้ให้เหตุผลในครั้งนี้ว่า:
“มีมิจฉาชีพแฝงตัวมาในอุตสาหกรรมคริปโตและ Blockchain เป็นจำนวนมาก ซึ่งกฎหมายสำหรับการกำกับดูแลนั้นเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อป้องกันนักลงทุนและผู้บริโภคภายในประเทศจากมิจฉาชีพ”
ประเทศไทยเริ่มให้ความสำคัญเกี่ยวกับเทคโนโลยี Blockchain และ Cryptocurrency มากขึ้น ล่าสุดวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา ทางก.ล.ต. ก็ได้เปิดประชุมสอบถาม พ.ร.ก. การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อให้กฏหมายด้านสกุลดิจิทัลมีความครอบคลุมและชัดเจนมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น