Lightning Network มีผู้ใช้งานมากขึ้น แต่ก็ยังคงมีปัญหาอยู่

ในหลายเดือนที่ผ่านมา มีการเปิดกระเป๋าคริปโตใหม่ ๆ ที่ถูกสร้างมาเพื่อรองรับระบบ Lightning Network เพื่อเป็นการช่วยเรื่องการ Scaling ของ Bitcoin นั่นเอง แต่โครงการนี้ยังอยู่ในระยะเริ่มแรกและยังเป็นช่วงเบต้าเท่านั้น เทคโนโลยีนี้ดูเหมือนยังห่างไกลและกลุ่มผู้ทดสอบดูเหมือนกำลังประสบปัญหาอยู่

ตอนนี้ผู้คนที่อยู่ในวงการคริปโตก็รู้จัก Lightning Network (LN) มากขึ้น และก็มีการเปิดให้ผู้ใช้งานได้ทดสอบเทคโนโลยี โดยใช้ Bitcoin Core (BTC) ทั้ง Testnet และ Mainnet เปอร์เซ็นต์การใช้งานบน LN Nodes ประมาณ 2,307 LN และมี 5,036 Channel อ้างอิงจากสถิติ LN มี BTC ที่อยู่ใน Channel มูลค่า 142,000 ดอลลาร์ เราจะเห็นการใช้ LN เป็นจำนวนมากบนโลก Social Network

ปัญหาที่เจอทั่วไปในการใช้ Lightning Network

เรามักจะเห็นปัญหาของ LN อยู่เสมอเพราะการทำงานที่ไม่ถูกต้อง และทุกคนสามารถค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับ LN บน Google ยกตัวอย่างเช่นการดาวน์โหลด Node ของ LN เป็นกระบวนการที่ยาวนานและยากสำหรับคนที่ไม่มีความรู้ในเรื่องนี้เลย มันเป็นเรื่องที่ยุ่งยากและน่าเบื่อ หรือการใช้กระเป๋าคริปโตอย่างเช่น Eclair หรือตัวอื่น ๆ ก็ยังเกิดปัญหาในการเชื่อมต่อ และผู้คนก็มักสูญเสียช่องทางที่จะทำการเชื่อมต่อกับกระเป๋า

ก่อนหน้านี้มีผู้ใช้งาน Lightning Network ค้นพบว่าการทำธุรกรรมใน Lightning Network บนเครือข่าย Bitcoin นั้นถูกที่สุดหากเทียบกับ Altcoins ตัวอื่น ๆ

ปัญหาและข้อบกพร่องที่เกิดขึ้นจาก LN ทำให้เกิดคำถามขึ้นว่า Lightning Network จะมีวิธีการแก้ปัญหาเรื่องความแอดอัดของเครือข่ายได้หรือไม่ ? และเมื่อไร LN จะช่วยในเรื่องของค่าธรรมเนียมที่เพิ่มขึ้นได้อย่างไร?

อย่างไรก็ตาม Lightning Network ยังอยู่ในช่วง Beta หรือช่วงทดลองเท่านั้น ยังไม่มีกำหนดการแน่ชัดแต่อย่างใดว่า Lightning Network จะสามารถใช้งานจริงได้ตอนไหน