<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ถ้านักลงทุนคริปโตโดนแฮ็ค ต้องทำอย่างไรบ้างหลังจากนั้น

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ใคร ๆ ก็อยากเข้ามาลงทุนในโลกแห่งคริปโต โดยวิธีการลงทุนก็มีมากมายไม่ว่าจะเป็นการซื้อที่เว็บขาย Bitcoin โดยตรง การขุดเหรียญคริปโตทั้งหลาย หรือสุดก็ท้ายก็คือการเทรดคริปโตบนเว็บเทรดนี่แหละ…

ซึ่งส่วนใหญ่แล้วหลาย ๆ คนก็อาจจะเลือกวิธีการเทรดก็เป็นได้ เพราะว่าไม่ยุ่งยากเท่าวิธีการขุด เมื่อเลือกว่าจะเทรดแล้วก็เข้าไปเทรดตามเว็บต่าง ๆ ได้เลย

แต่เมื่อเราซื้อคริปโตและเก็บเหรียญไว้บนเว็บเว็บเหล่านั้นเรียบร้อยแล้ว ภายหลังเรากลับมาดูปรากฏว่าเหรียญเหล่านั้นถูกแฮ็คหรือหายไปเราต้องทำอย่างไรบ้าง

ตั้งสติ

อย่างแรกสุดเลยคือจงตั้งสติ อย่าเพิ่งหุนหันพลันแล่น เตลิดเปิดเปิงไป จงคิดว่าเราได้ส่งเหรียญไปที่ไหนหรือไม่หรือเผลอไปกดอะไรหรือเปล่า

เมื่อตั้งสติได้แล้วเปิด Log บนเว็บเทรดว่าเกิดอะไรขึ้น นั่งไล่เช็คทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ เพราะมันอาจเกิดข้อผิดพลาดอะไรบางอย่างก็เป็นได้

Call Center

ติดต่อ Call Center ของเว็บเทรดที่เราใช้บริการอย่างเร็วที่สุด เพราะพวกเขาจะเป็นผู้ที่สามารถตรวจสอบรายละเอียดให้เราได้

ยิ่งถ้าเว็บเทรดไหนมีบริการตลอด 24 ชั่วโมง ก็จะยิ่งสามารถทำให้นักเทรดสบายใจได้มากขึ้นอีกด้วย เพราะนักเทรดจะรู้สึกว่าเจ้าหน้าที่มีความใจใส่ต่อลูกค้าจริง ๆ

เช็ค 2FA หรือ IP

ปัจจุบันในหลายเว็บเทรดมีการรักษาความปลอดภัยมากมาย แล้วแต่เว็บเทรดว่าจะเลือกวิธีการไหนมาใช้ แต่ส่วนใหญ่แล้วนั้นจะมีระบบที่เรียกว่า 2FA นี่แหละที่นิยมใช้กัน เพราะเป็นวิธีที่มีความรัดกุมสูง

ถ้าผู้ใช้งานเว็บเทรดไม่ได้เปิด 2FA เอาไว้อันนี้ก็จบกัน เพราะแฮ็คเกอร์สามารถแฮ็คบัญชีได้อย่างง่ายดายนั่นเอง

อีกอย่างที่ควรตรวจสอบก็คือมีผู้ใช้งานคนอื่นพยายาม Login เข้าเว็บเทรดหรือไม่ ถ้ามีมันจะขึ้น IP ของผู้ใช้งานคนนั้นขึ้นมา และเราสามารถเอา IP นั้นไปตรวจสอบได้ว่า Login มาจากที่ไหนประเทศไหนได้อีกต่างหาก

แช่แข็งบัญชี

เมื่อเจอเหตุการณ์ที่โดยแฮ็คแล้ว เราควรที่จะแช่แข็งบัญชีของตัวเองไว้ก่อนเพื่อไม่ให้มีใครสามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับบัญชีเทรดเราได้ และเราก็สามารถทำการตรวจสอบได้อีกด้วย

การแช่งแข็งบัญชี (Freeze Account) ก็เพียงติดต่อผู้ให้บริการเว็บเทรดนี่เอง ไม่ใช่เรื่องยากอะไร และผู้ให้บริการเว็บเทรดก็จะรีบดำเนินการให้

ตรวจเช็คอุปกรณ์ในการเทรด

เครื่องมือในการเทรดคริปโต ถ้าไม่นับบนโทรศัพท์มือถือก็คือเครื่องคิมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะเป็น PC, Notebook หรือเครื่อง Mac นั่นเอง ถ้าเป็นฝั่ง Mac อาจไม่ต้องกังวลเท่าไรนัก เพราะไม่มีไวรัส แต่ก็มี Malware นะ อย่าไว้ใจมันมากไปเพราะมีรายงานว่า Malware ตัวใหม่ที่สามารถรันบนเครื่อง Mac ได้แล้ว

ถ้าเราโดนแฮ็คแล้ว เราลองตรวจสอบอุปกรณ์ที่เราทำการเทรดทันทีเลยว่ามีสิ่งแปลกปลอมอะไรไหมบนเครื่อง หรือเราโปรแกรมที่สามารถ Remote เข้าเครื่องมาได้หรือไม่ เช่น TeamViewer (ไม่แท้) เพราะถ้าเราใช้แบบไม่แท้หรือเวอร์ชั่น Crack แน่นอนว่าจะเป็นการเปิดประตูให้เหล่าแฮ็คเกอร์แน่นอน ฉะนั้นรีบลบหรือลอง Scan Virus ในตัวเครื่องดูนั่นเอง (ควรใช้ Anti-Virus แท้ด้วยนะ)

ทำใจ

แน่นอนว่าเมื่อโดนแฮ็คแล้ว เราไม่สามารถนำสินทรัพย์นั้นกลับมาได้ เพราะมันโอนไปในรูปแบบที่ถูกต้อง และถ้าเราไปแจ้งความ ตำรวจอาจไม่รับคดีในรูปแบบนี้ก็เป็นได้

ฉะนั้นเมื่อโดนแฮ็คก็คิดเสียว่า ทำบุณทำทานให้กับผู้ยากไร้ (T^T) หรือคิดว่าทำ Private Keys หายก็ได้ และปลอบใจว่า สะสมใหม่ก็ได้ และครั้งนี้จะคอยตรวจสอบให้ดีไม้ว่าจะเป็นเรื่องของอุปกรณ์ในการเทรด และการรักษาความปลอดภัยในรูปแบบต่าง ๆ อีกด้วย

สรุป

ไม่มีใครอยากโดนแฮ็คคริปโตของตัวเองแน่นอน ผู้เขียนแนะนำว่าถ้าไม่อยากฝากเหรียญไว้บนเว็บเทรดละก็ ลองหา Hardware Wallet สักตัวมาเก็บสินทรัพย์ของตัวเองดีกว่า เพราะเมื่อเรานำเงินเข้า Hardware Wallet แล้ว เราก็ไม่ต้องไปสนใจมันอีก และมันจะคงอยู่กับเราไปตลอดแน่นอน

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น